“อ้าว! อร นึกว่าอรไปทำงานที่อื่นซะอีก นี่ยังอยู่สุพรรณเหรอ” พงษ์เดินตรงไปหาเพื่อน แม้จะรู้มาว่านิอรเพิ่งหย่ากับสามี แต่เขาไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นให้แสลงใจเพื่อนเด็ดขาด
“อรไปอยู่กรุงเทพฯ มาพักหนึ่ง ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านแล้ว ทำบัญชีให้กับบริษัทในตัวจังหวัดน่ะ”
นิอรเดินมาเกาะรั้วคุยกับเพื่อนเก่า พงษ์จึงถือโอกาสแนะนำน้องสาวให้รู้จัก
“นี่ปลาย น้องสาวผม อรคงพอจำได้”
“โอ้โห! น้องปลายหรือเนี่ย สวยจนจำไม่ได้เลย ที่จริงพี่เห็นแว่บๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นปลาย ปลายมาพักที่นี่เหรอจ๊ะ”
“ใช่ค่ะพี่อร แต่แค่ชั่วคราว ระหว่างรอเพื่อนพยาบาลย้ายมาอยู่ด้วยกันที่แฟลตโรงพยาบาลน่ะค่ะ ช่วงนี้พี่พงษ์เลยเอาปลายมาฝากไว้บ้านพี่แดนก่อน”
“มิน่าล่ะ ช่วงนี้ดูเหมือนแดนจะสดชื่นขึ้น มีสาวๆ มาอยู่ด้วยอีกแล้วนี่เอง”
พงษ์ไม่ได้ฟังผิดไปแน่ น้ำเสียงของนิอรมีแววกระทบกระเทียบปนอยู่
จะว่าไปนิอรเป็นเพื่อนผู้หญิงที่พงษ์ไม่ค่อยได้นึกถึงสักเท่าไร นอกจากเพราะไม่สนิทด้วยมาแต่ไหนแต่ไรยังเพราะความแปลกในตัวหญิงสาว เขารู้มาตลอดว่านิอรหลงรักแดนไทตั้งแต่วัยรุ่น จนกระทั่งแดนไทถูกจับแต่งงานกับไข่มุกเพื่อนสนิทของนิอร ยิ่งทำให้เธอเสียใจ จึงประชดด้วยการแต่งงานไปกับหนุ่มเศรษฐีกรุงเทพฯ ใครจะนึกว่านิอรกลับโชคร้าย เจอผู้ชายเลวๆ จนที่สุดถึงกับต้องหย่าร้างกัน ในขณะที่แดนไทนั้น แต่งงานได้ไม่กี่ปีภรรยาก็เสียชีวิต สรุปแล้วนิอรไม่สมหวังกับแดนไทที่เธอหลงรักเสียที เพราะจังหวะชีวิตดูจะไม่ได้อย่างใจเลย
แล้วมาตอนนี้ทั้งคู่กลับมาโสด แถมนิอรกลับมาอยู่สุพรรณ บ้านใกล้เรือนเคียงกับแดนไทอีกต่างหาก อย่างนี้เดาไม่ถูกเลยว่าเธอจะพยายามสานต่อหรือพอแค่นั้น
“ผมไม่ได้สดชื่นสักหน่อย อรก็พูดไปเรื่อย” บอกแล้วแดนไทจึงพาแขกเดินเข้าไปในบ้าน ตัดบทการสนทนากับสาวข้างบ้านลงอย่างสิ้นเชิง
“มึงเป็นอะไรของมึง ไอ้แดน ทำไมปั้นปึ่งกับอรขนาดนั้น เหมือนเป็นคนอื่นเลย”
“ก็คนอื่นจริงๆ นั่นแหละ กูแตกหักกับอรตั้งแต่รู้ว่าโกหกกูมาตั้งนาน บอกกูว่าไข่มุกไม่อยากให้กูมีเมียใหม่ กูก็เชื่อและไม่มีใครมาตั้งนาน จนกระทั่งกูไปอ่านเจอในไดอารี่ของไข่มุก เขาเขียนไว้เลยว่าถ้าเขาจากไป เขาอยากให้กูหาคนที่รักกันจริงและรักลูกกูด้วย อยากให้ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข เขาไม่ได้ปิดกั้นอย่างที่อรบอกสักหน่อย กูงงมากว่าทำไมอรต้องปั้นเรื่องขนาดนั้น”
“ไม่ต้องมางงเลย ขนาดกูยังเข้าใจ เพราะอรน่ะชอบมึงมาตั้งแต่มัธยม ตอนนี้ก็คงยังอยากได้มึงอยู่ไง ไอ้เสน่ห์แรง”
คำว่า ‘ไอ้เสน่ห์แรง’ ทำให้ปลายฝนที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันไปมองหน้าแดนไท...จำต้องสรุปในใจว่าพี่ชายเธอพูดไม่เกินจริง แค่ได้ใกล้ชิดกันไม่นาน ปลายฝนยังสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ในตัวแดนไท ผู้ชายห้าวๆ ผิวเข้ม ใบหน้าดูบึ้งตึง แข็งกร้าวตลอดเวลา ทั้งที่ในใจนั้นตรงข้าม...เขาน่าค้นหาและมีเสน่ห์อย่างแท้จริง นั่นเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ
“กูไม่มีวันยุ่งกับอรหรอก แค่คิดก็ขนลุกแล้ว คนแปลกๆ แบบนั้น กูกลัวนะ” แดนไทประกาศกร้าว
“มิน่าล่ะ มึงไม่ชวนอรกินข้าวด้วยกันเย็นนี้ เข้าใจละ”
“อย่าไปยุ่งกับอรเลย ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด” เจ้าของไร่หนุ่มย้ำ
----------
หลังอาหารมื้อเย็นอันแสนอร่อยผ่านไป แดนไทหาโอกาสคุยกับพงษ์ตามลำพังจนได้ ส่วนปลายฝนนั้นขอตัวไปเข้านอนเพื่อพรุ่งนี้จะได้ไปทำงานแต่เช้า
สองหนุ่มนั่งคุยกันตรงระเบียงหน้าบ้าน ภายใต้แสงจันทร์นวลตา
“วันนี้กูขอเปิดใจพูดกับมึงนะไอ้พงษ์ หลังจากที่น้องมึงมาอยู่บ้านกูได้เกือบเดือน กูบอกเลย กูห่วงปลายว่ะ ว่าต่อไปจะใช้ชีวิตยังไง ถ้าออกแนวปวกเปียกแบบนี้”
“ปวกเปียก!”
“ใช่! กูยังไม่ได้เล่า วันที่กูเห็นปลายโดนยายดาราดังด่าลั่นโรง’บาลน่ะ มึงเชื่อไหม ปลายยืนนิ่งให้เขาด่า หน้าก็โดนเขาตบมาหยกๆ ถ้าเป็นกูนะ กูต้องตอบโต้ให้มันสาสม ในเมื่อเราไม่ผิด ทำไมถึงปล่อยให้มาด่าฉอดๆ เท่านั้นไม่พอ กูไม่อยากเชื่อว่าสาวสมัยใหม่อย่างปลายจะขับรถไม่เป็น มึงคิดถูกแล้วที่เอารถมาให้น้องมึง เดี๋ยวกูจะสอนขับให้เอง เอาให้เก่งเลยคอยดู”
“เรื่องปลายนี่กูเถียงไม่ค่อยออกเหมือนกัน ยอมรับว่ะ ว่ากูเลี้ยงน้องมาแบบไข่ในหินเกินเหตุ ยิ่งตอนอยู่เชียงใหม่ พอแม่เลิกกับพ่อ ต่างคนต่างไปมีคนใหม่ กูนี่แหละที่รับผิดชอบ คอยดูแลน้องมาตลอด”
พงษ์ตัดสินใจจะไม่เอ่ยถึงเรื่องที่พ่อเลี้ยงเกือบลวนลามน้องสาวเขาจนเป็นปมในใจของปลายฝน ถ้าเป็นไปได้พงษ์อยากเหยียบเรื่องอัปยศนั่นให้จมดิน
“กูยอมรับว่าที่ผ่านมาประคบประหงมน้องมากไป ปลายจะทำอะไรที่ดูเสี่ยงกูก็ห้ามหมด ขอแค่น้องตั้งใจเรียน ขนาดนี้ปลายยังโดนอากูรั้งตัวไปประกวดนางสาวเชียงใหม่จนได้ ตอนนั้นกูทะเลาะกับอาเลยนะ ไม่อยากให้น้องประกวด แต่ที่สุดต้องยอมแพ้เพราะย่าช่วยพูด ตอนนั้นกูกับปลายอาศัยบ้านย่าอยู่ไง ก็เลยจำยอมให้ปลายไปขึ้นเวทีประกวด แล้วดูสิ มันก็ดั๊นได้รองอันดับหนึ่งมาจนต้องดร็อปเรียนไปปีนึง สรุปก็มีแต่เรื่องนางงามนี่แหละที่คนอื่นเข้ามาเอี่ยว นอกนั้นกูดูแลน้องทุกอย่าง ปลายยิ่งหัวอ่อนอยู่แล้ว บางครั้งเลยอาจดูปวกเปียกไปหน่อย แต่หลังจากผ่านสถานการณ์โคตรแย่ในวันแต่งงานนั่น กูเชื่อว่าปลายจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็ฝากมึงช่วยฝึกน้องกูอีกแรงนะ ลำพังกูเองอะ ชอบตามใจน้องจนติดนิสัย”
พงษ์เปิดใจคุยยาวกับเพื่อน ในเมื่อแดนไทต้องช่วยดูแลน้องสาวเขา ก็ควรได้รู้พื้นหลังของปลายฝนให้มากขึ้นอีกนิด
“เรื่องสายโหดมึงไม่ต้องห่วง กูรับหน้าที่เอง รับรองว่าช่วงที่ปลายมาพักบ้านกูเนี่ย กูจะฝึกจนน้องมึงแกร่งเลยล่ะ ช่วงนี้วันไหนไม่ได้ไปโรง’บาล กูชวนปลายเข้าไร่ ไปดูงานด้วยกัน บางทีก็ให้ลงมือทำโน่นทำนี่ จะได้คล่องๆ ลืมเรื่องทุกข์ใจไปบ้าง เชื่อว่าตอนหมอศรุตย้ายไปแล้วทุกอย่างต้องดีขึ้นอีก”
“ขอบใจเว้ยเพื่อน กูนับวันรออยู่เนี่ยว่าเมื่อไหร่หมอนั่นจะย้ายไปสักที เห็นว่าอีกไม่นานหรอก ที่สำคัญ น้ำปิงกำลังจะย้ายมาแล้ว ทุกอย่างต้องโอเคขึ้นแน่ๆ” พงษ์ตบบ่าเพื่อนเบาๆ แค่มองตาก็รู้แล้วว่าแดนไทหวังดีต่อปลายฝนไม่แพ้พี่ชายแท้ๆ อย่างเขา
“กูรับปากมึงเลยว่าจะฝึกให้น้องมึงแกร่งให้ได้ แต่ถ้ากูรับบทโหดไปบ้าง มึงต้องเข้าใจกูนะ ไม่มีใครมาคอยเอาอกเอาใจกันได้ตลอดหรอก”
“ตามสบายเลย จะใช้วิธีไหนก็แล้วแต่มึง เอาจนปลายสู้ชีวิต สู้คนจะดีมากๆ ยังไงน้องกูต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองแหละนะ”
แววตาของแดนไทเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาไม่อยากเห็นปลายฝนยอมให้ใครทำร้ายจิตใจง่ายๆ อย่างนั้นอีก จะต้องฝึกให้สำเร็จในที่สุด
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **