ทดลองอ่าน ฝากรักไว้ที่ปลายฝน : ตอนที่ 22

 

 

ตอนที่ 22

 

 

เอาเข้าจริงปลายฝนยังไม่อาจตัดขาดจากไร่เผือกของแดนไทเสียทีเดียว

น่าจะเป็นเพราะเธออดสงสารน้องเดี่ยวไม่ได้ ยังจำได้ดีว่าวันที่เธอขนของออกมาจากบ้านปีกไม้นั้น น้องเดี่ยวถึงกับร้องไห้โฮๆ จะตามเธอมาด้วย

‘ไม่เอาน่ะ น้องเดี่ยวทำไมทำตัวเป็นเด็กดื้ออย่างนี้ พ่อคุยกับเดี่ยวแล้วไงว่าอาปลายไม่ได้ไปไหนไกล ยังพักอยู่ในโรง’บาลใกล้ๆ โรงเรียนเดี่ยวที่เราเคยไปกันไง คิดถึงเมื่อไรก็ไปหาได้’ แดนไทปรามลูกชายทั้งที่ตัวเองนั้นใบหน้าเศร้าไม่แพ้กัน

‘แต่เดี่ยวอยากให้อาปลายอยู่บ้านกับเราทุกวันนี่นา’

‘อาปลายเขาต้องไปทำงาน งานหนักด้วย บางวันต้องอยู่เวร ถ้าได้พักใกล้ๆ จะสะดวกกว่า’ คนเป็นพ่อลูบศีรษะลูกชายเพื่อปลอบประโลม

น้ำตายังไหลพรากๆ จากดวงตาของน้องเดี่ยว ปลายฝนถึงกับต้องอุ้มร่างน้อยมากอดไว้แน่นเพื่อปลอบขวัญ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าน้ำใสๆ จากนัยน์ตาของตนเริ่มออกมาคลอบ้างเหมือนกัน ไม่เคยคิดเลยว่าจะรักและผูกพันกับน้องเดี่ยวขนาดนี้

‘เอาแบบนี้ไหม เดี่ยวลองคุยกับอาปลาย ให้อาปลายสัญญาว่าถ้ามีเวลาว่างเมื่อไรต้องกลับมาพักที่บ้านเรา วันเสาร์ อาทิตย์ที่เดี่ยวไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้ จะได้อยู่ด้วยกันทั้งวันให้พอใจ’

พอคนเป็นพ่อชี้แนะอย่างนั้น น้องเดี่ยวจึงหันมาถามปลายฝนที่อุ้มตนอยู่

‘ได้ไหมคับอาปลาย วันเสาร์ อาทิตย์ มาหาเดี่ยวบ้างได้ไหม’ น้ำเสียงปนสะอื้นนั้นใครที่ไหนจะกล้าขัด ปลายฝนรีบตอบ

‘ได้สิจ๊ะ อาปลายสัญญาว่าว่างวันไหนจะมาอยู่กับเดี่ยวนะ มาอ่านนิทานก่อนนอนให้ฟังด้วย ดีไหม’

‘เย่ๆ อาปลายสัญญาแล้วนะ’

‘สัญญาจ้ะ’

ปลายฝนหอมแก้มนุ่มพร้อมให้สัญญาจากหัวใจ เธอรับรู้ได้ว่าเด็กน้อยผู้ไม่เคยได้เห็นแม้หน้าของแม่ตัวเองจะรู้สึกเหงาและอ้างว้างเพียงใด การที่เธอกลับมาหาน้องเดี่ยวบ้าง เป็นเรื่องที่สมควรและเต็มใจทำอย่างยิ่ง

วันนั้นก่อนขับรถออกมาจากไร่ แดนไทขอให้เธอเปิดกระจกลง เขาก้มลงกระซิบเบาๆ

‘ขอบคุณมากนะที่ให้สัญญากับน้องเดี่ยวว่าจะมาหา ถือว่าสัญญากับพี่ด้วยก็แล้วกัน’

ปลายฝนปิดกระจกรถ รู้สึกถึงความอบอุ่นแล่นวาบเข้ามาในหัวใจ ความอุ่นนั้นยังคงอบอวลอยู่ในรถ จนกระทั่งได้ยินเสียงของน้ำปิงที่นั่งข้างๆ กันดังขึ้น

‘อาลัยอาวรณ์กันทั้งพ่อทั้งลูกขนาดนี้ ไม่ธรรมดาแล้วมั้งแก’

ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์จากลาในวันนั้นทำให้ปลายฝนรู้สึกถึงความ ‘ไม่ธรรมดา’ เป็นอย่างยิ่ง หากเธอยังพยายามปล่อยผ่าน ให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ

แต่ที่แน่ๆ ระยะแรกนี้เธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะหาโอกาสไปค้างที่บ้านไร่อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อไม่ให้น้องเดี่ยวรู้สึกเดียวดายจนเกินไป

อย่างวันอาทิตย์นี้ซึ่งไม่ติดอยู่เวร เธอจึงขอเวลาน้ำปิง ขอไปค้างคืนที่บ้านปีกไม้ ตั้งใจจะส่งน้องเดี่ยวเข้านอนพร้อมอ่านนิทานให้เขาฟังจนหลับสักคืนหนึ่งก็ยังดี เด็กชายคงรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้น

เป็นตามคาด เพียงแค่ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านปีกไม้หลังใหญ่ ก็เห็นร่างป้อมๆ ของน้องเดี่ยววิ่งออกมาจากบ้าน ตามด้วยนมเป่งที่วิ่งตามมาดูแลติดๆ

พอรถจอด ยังไม่ทันเปิดประตู เด็กชายก็วิ่งมาถึงตัวรถ ปลายฝนลงรถแล้วอุ้มน้องเดี่ยวขึ้นมา เด็กชายกอดคอเธอไว้แน่น ต่างคนต่างหอมแก้มกันด้วยความคิดถึงสุดใจ

“เดี่ยวคิดถึงอาปลาย”

“อาปลายก็คิดถึงน้องเดี่ยวจ้ะ รักนะจุ๊บๆ” ปลายฝนทั้งกอดและหอมไม่ยอมหยุดเสียที จนแดนไทที่เดินมาสมทบต้องบอก

“หายคิดถึงหรือยังน้องเดี่ยว บ่นคิดถึงอาปลายทุกวัน ได้กอดเสียทีเนอะ ชื่นใจไหม”

“ชื่นใจค้าบ พ่อแดนมากอดอาปลายด้วยกันไหม”

แดนไทถึงกับอึ้ง ฝ่ายปลายฝนนั้นใบหน้าแดงซ่าน ในที่สุดนมเป่งจึงช่วยไว้

“ได้ไงคะน้องเดี่ยว พูดแบบนี้เดี๋ยวอาปลายเขินแย่ ผู้ใหญ่เขาไม่ค่อยกอดหอมกันให้เราเห็นหรอก น้องเดี่ยวกอดหอมแทนพ่อไปก็แล้วกันนะ เอ๊ะ! แล้วนี่คุณปิงไม่มาด้วยเหรอคะ”

“ปิงอยากอยู่แฟลตจัดของ ซื้อของใช้เข้าอีกนิดหน่อยค่ะนมเป่ง เลยขอตัว ไม่ได้มาด้วยกัน”

“เข้าบ้านกันเถอะ วันนี้นมเป่งไม่หลุดฟอร์มเลย เตรียมมื้อเย็นซะอลังการเหมือนจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ พี่ห้ามยังไงก็ไม่เชื่อ” แดนไทฟ้อง

“ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนั้นหรอกค่ะนม นมทำอะไรง่ายๆ ก็อร่อยแล้ว ปลายชอบรสมือนมเป่ง เมนูธรรมดายังดูพิเศษเลย”

“ได้ไงล่ะคะ วันพิเศษขนาดนี้ อาหารก็ต้องพิเศษหน่อย พอคุณปลายไม่อยู่ บ้านเงียบเหงามาก พ่อลูกกินข้าวไม่ค่อยลงกันหรอกค่ะ นมล่ะดีใจที่คุณเจียดเวลามาหาพวกเรา”

“ให้ปลายช่วยอะไรบ้างนะคะ ออกไปตลาดซื้อของด้วยกันก็ได้ ปลายขับรถให้ ปลายขับเก่งแล้วนะคะนม”

“อุ๊ย! พูดถึงซื้อของ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้ามืดที่ออกไปซื้อน่ะ นมยังขาดของสดบางอย่าง สงสัยต้องรบกวนคุณปลายขับรถไปให้จริงๆ นั่นละ เอาตอนที่น้องเดี่ยวเรียนวาดรูปช่วงบ่ายก็ได้ ดีไหมคะ”

“ดีๆ ค่ะ ปลายอยากช่วยอะไรบ้าง ไม่งั้นนมจะเหนื่อยมาก”

“นมแน่ใจนะ ว่าไม่ต้องให้ผมขับพาไปน่ะ” แดนไทแทรก อยากขอมีส่วนร่วมในวันพิเศษด้วย

“แน่ใจค่ะคุณแดน ขอเวลาให้นมได้อยู่กับคุณปลายได้คุยตามลำพังบ้างสิคะ ไม่ใช่คุณแดนคนเดียวนะที่คิดถึงคุณปลายน่ะ”

แดนไทไม่ปฏิเสธ เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองแก้เขิน แล้วบอกเสียงอ่อย

“งั้นตามนั้นแหละ นมไปกับปลายก็ได้ เดี๋ยวผมเข้าไร่ก่อน”

----------

ตลาดอำเภอแห่งนี้เล็กๆ ก็จริง แต่ข้าวของที่แม่ค้านำมาวางขายล้วนสดใหม่ขายวันต่อวันในราคามิตรภาพ ทั้งแม่ค้าและลูกค้ารู้จักกันดีราวกับญาติ นมเป่งซื้อของไปคุยกับแม่ค้าแต่ละร้านไปจนได้อาหารสดมาเพิ่มอีกหลายอย่าง ปลายฝนเพลิดเพลินกับการเดินชมตลาดและช่วยหญิงสูงวัยหิ้วของ สนุกกับการฟังบทสนทนาที่น้ำเสียงเหน่อสุพรรณขั้นสุด เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติมีชีวิตชีวา 

เมื่อได้ของครบแล้วทั้งสองเดินกลับไปที่รถ สวนกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งเดินตรงเข้ามาหา หน้าตาของเขาดูดุดันน่ากลัว

“นั่นใครน่ะ ป้าเป่ง” เสียงทักห้วนๆ ดังมาจากชายร่างผอมสูงซึ่งปลายฝนมั่นใจว่าไม่เคยรู้จัก

“แกมายุ่งอะไรด้วยล่ะ ไอ้เดช” นอกจากไม่ตอบคำถามแล้วนมเป่งยังถามกลับ น้ำเสียงห่างเหิน

“ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอกนะ แต่หนูคนนี้หน้าเหมือนเปรมสุดาเปี๊ยบจนฉันต้องทักน่ะสิ อย่าบอกนะว่านี่ลูกสาวเปรมสุดา” คนทักจ้องหน้าปลายฝนแบบไร้มารยาทจนเธอต้องชักสีหน้าให้เขารู้ว่าไม่พอใจ การเอ่ยชื่อแม่ของเธอออกมาทำให้ปลายฝนถึงกับขมวดคิ้ว

“ถ้าใช่แล้วทำไม เรื่องมันเมื่อปีมะโว้แล้ว ยังจะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บอะไร” นมเป่งตวาดลั่นตลาด

“แค้นฝังใจ นานแค่ไหนก็ไม่หายหรอกนะป้า”

ปลายฝนใจหายวาบเมื่อเห็นแววตาชายแปลกหน้าที่มองมา เธอดูไม่ผิดแน่ ในนั้นอัดแน่นด้วยความเคียดแค้นชิงชัง หญิงสาวพยายามนึกทบทวนจนมั่นใจสุดๆ ว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าชายผู้นี้มาก่อน

“ไปกันเถอะคุณปลาย อย่าไปสนใจอันธพาลเลย”

นมเป่งรั้งแขนพยาบาลสาวให้เดินตามไป กระนั้นชายร่างสูงยังตะโกนและก้าวเท้าตามแบบไม่ลดละ

“ใครว่าอันธพาล รู้ไว้ด้วยนะว่าไอ้ขจรเดชคนนี้ไม่ใช่ขี้ๆ ถึงจะเคยสะบักสะบอมเพราะไอ้ผดุงมันกวาดล้างบ่อนจนฉิบหายวายวอดไปหลายปี แต่ตอนนี้ฉันกลับมาผงาดได้เหมือนเดิม เพียงแค่ไม่รวยล้นฟ้าเท่าที่ฝันไว้เพราะไอ้ตำรวจเหี้ยมาดับฝัน แต่ก็เห็นๆ อยู่ว่ากรรมตามสนองมัน พอมันย้ายไปทางเหนือแล้วได้ข่าวว่าไปมีเมียน้อย ครอบครัวแตกแยกบรรลัยเลยไม่ใช่เหรอ สมน้ำหน้า”

ชื่อพ่อของปลายฝนและคำว่า ‘ตำรวจเหี้ย’ ทำให้เธอชะงักฝีเท้า ยืนเผชิญหน้า ตะโกนลั่น

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! แกเป็นใคร อยู่ๆ มาพูดเสียๆ หายๆ ถึงครอบครัวฉันแบบนี้”

“เป็นเหยื่อของไอ้ตำรวจคนหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่แบบไม่มีการยืดหยุ่นไง ใครจะฉิบหายมันไม่สน กูเกลียดมัน!” เสียงตะคอกมาพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจัดทำให้ปลายฝนตัดสินใจไม่ต่อล้อต่อเถียง เธอเร่งฝีเท้าจนมาทันนมเป่ง

“ไปกันเถอะค่ะคุณปลาย อย่าไปตอแยกับมันเลย นมขอร้องละ”

นมเป่งลากตัวหญิงสาวให้เดินเร็วๆ มาจนถึงรถ เมื่อขึ้นรถแล้วนางเร่งให้ปลายฝนรีบออกตัวไป

ทั้งคู่ไม่ได้เหลียวกลับไปมอง จึงไม่รู้ว่าแววตาเคียดแค้นชิงชังของขจรเดชที่มองตามไปนั้นดูโหดร้ายผิดมนุษย์มนา คำพูดที่หลุดจากปากเขาเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกลียดอัดแน่น

“อย่าบอกนะว่าลูกสาวไอ้ผดุงเสือกย้ายกลับมาอยู่แถวนี้อีก มันคงไม่รู้สินะว่าถ้าไม่อยากฉิบหายก็อย่ามาเหยียบเมืองสุพรรณ ใครบังอาจท้าทายกู ต้องได้เห็นดีกัน!”

 

ลงให้ได้เท่านี้นะจ๊ะ ติดตามต่อในฉบับเต็มทั้งแบบ หนังสือเล่ม และ อีบุ๊ก

 
 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com