“พี่พงษ์คะ ปลายขอใช้รถคันเก่าของพี่ได้ไหม พี่เพิ่งซื้อคันใหม่ไปนี่นา”
ปลายฝนกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ มั่นใจว่าการอ้อนพี่ชายครั้งนี้ต้องได้ผล เธอทนไม่ไหวแล้วกับความรู้สึกเกรงใจซึ่งหนักข้อขึ้นทุกที สองสัปดาห์ที่ผ่านมากลายเป็นว่าแดนไทต้องไปส่งเธอถึงโรงพยาบาลทุกเช้า แถมวันไหนอยู่เวรเขายังต้องรับส่งเธอดึกๆ ดื่นๆ อีกต่างหาก
“พูดไปเรื่อยน่าปลาย ขับรถเป็นหรือไงฮึ”
“ก็ปลายจะหัดขับไง ให้พี่แดนสอน ขอแค่พี่เอารถคันเก่ามาให้ปลายที่สุพรรณหน่อย นะค้า...” ปลายฝนลากเสียงยาวตรงท้ายประโยค
“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานเลย แน่ใจใช่ไหมว่าจะขับเป็นน่ะ จำไม่ได้เหรอว่าตอนวัยรุ่นเคยให้พี่หัดให้แล้วไปเสยกับต้นไม้จนเข็ด ไม่กล้าจับพวงมาลัยอีกเลย แล้วตอนนี้นึกยังไง ไม่กลัวแล้วเหรอ”
“นี่ใคร นี่ปลายคนใหม่นะคะพี่พงษ์ ปลายจะหัดขับให้ได้เลย พี่แดนน่าจะสอนดี เห็นขับเก่งจะตายไป”
“ไอ้แดนนี่มันก็บ้านะ ความจริงพี่แค่ขอให้แกไปพักด้วย แต่มันล่อทำตัวเป็นผู้ปกครอง ทั้งดูแลเรื่องกินอยู่ แล้วยังรับส่งไปทำงานอีกต่างหาก พอนึกจะดีด้วยก็ดีเกินไป๊”
“เพื่อนพี่คงทนเห็นปลายโดนทำร้ายไม่ได้ละมั้ง ช่วงแรกเลยทำตัวเป็นบอดี้การ์ดซะหน่อย แต่พี่แดนเทรนจนปลายแกร่งขึ้นมาแล้วละ”
“แค่สองอาทิตย์เนี่ยนะ”
“ปลายดีขึ้นเยอะนะคะ พี่ไม่รู้อะไร วันไหนปลายไม่ต้องไปทำงาน พี่แดนเริ่มลากปลายเข้าไร่เผือกแล้ว”
“หา! จะเกินไปไหม ปลายไม่เหนื่อยแย่เหรอ ร้อนก็ร้อน” พี่ชายที่ดูแลน้องมาตั้งแต่เด็กโวยลั่น
“พี่แดนไม่ได้ให้ปลายลงมือทำอะไรหนักๆ สักหน่อย มีคนงานอยู่แล้ว เพียงแค่ให้ไปดู ไปช่วยคุม เรียนรู้งานไปด้วย ปลายว่าสนุกดีนะ ทำไร่เผือกเนี่ย น่าสนใจสุดๆ”
“ยังไงก็อย่าถึงกับตรากตรำจนดำเป็นถ่านล่ะ ไอ้แดนน่ะมันไม่ต้องกลัวเพราะมันดำอยู่แล้ว แต่เราเนี่ยเป็นผู้หญิง ระวังแดดไว้หน่อยก็ดี”
“ค่า คุณพี่สุดที่รัก ห่วงน้องทุกเรื่องจริงจริ๊ง” ปลายฝนลากเสียงยาวหวานหยด “ส่วนที่โรง’บาลพี่ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้พี่รุตไม่ค่อยมายุ่งแล้วละ ปลายตอกหน้าไปหลายหน ไม่ให้มาวุ่นวายด้วย ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว เหลือแค่รอให้น้ำปิงย้ายมา”
“โอเค ส่วนเรื่องรถ ถ้าอยากขับพี่จะเอาคันเก่าไปให้ใช้”
“ให้ไวเลยนะ ปลายเกรงใจพี่แดนจะแย่ ไม่อยากให้เขาขับรับส่งตลอดแบบนี้”
“แปลกเนอะ ไอ้แดนมันมีลุงหง่าคนขับรถเก่าแก่ที่ไว้ใจได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมมันต้องขับเอง”
“เห็นบอกว่าไม่ค่อยไว้ใจค่ะ เป็นห่วง ปลายเป็นผู้หญิงด้วย”
“ไม่ไว้ใจลุงหง่าเนี่ยนะ เว่อร์ละ ไอ้เวรนี่”
พงษ์รำพึงเบาๆ อดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหัวใจเพื่อนหรือเปล่า ทำไมต้องมาห่วงน้องสาวเขาจนออกนอกหน้าขนาดนั้นด้วย
ดูเกินเบอร์ไปเยอะเลย
----------
เมื่อได้รับฟังอาการแปลกๆ ของแดนไทที่มีต่อปลายฝน พงษ์จึงตัดสินใจขับรถเก๋งคันเล็กของเขามาให้น้องสาวใช้ถึงสุพรรณด้วยตัวเอง จะได้ลองสังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่ให้เห็นกับตาไปเลย
ความจริงลึกๆ แล้วพงษ์เป็นคนหวงน้องสาวมาก บางครั้งแอบคิดว่าน้องยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว ทั้งที่ตอนนี้ปลายฝนก็ยี่สิบแปดแล้ว อาจจะเป็นเพราะครั้งแรกที่ทำใจยอมให้ปลายฝนแต่งงานกับหมอศรุต แต่กลับพบว่าตนตัดสินใจผิดอย่างแรง น้องต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายแสนเจ็บปวด พงษ์จะไม่ทำพลาดอีก ต่อให้เป็นแดนไทเพื่อนรัก แต่ถ้าจะมาเป็นน้องเขยละก็ พี่ชายคนนี้ต้องขอพิจารณาให้รอบคอบก่อน
ทันทีที่รถเก๋งคันกะทัดรัดสีขาวมาจอดหน้าบ้านปีกไม้หลังใหญ่ พงษ์เห็นปลายฝนวิ่งออกมาหาถึงรถ ราวกับว่าเธอนั่งจ้องถนนเข้าไร่ รอเวลาที่เขาจะมาถึงอยู่แล้ว
“พี่พงษ์ คิดถึงงงง...” น้องสาวขี้อ้อนลากเสียงยาวขณะตรงเข้ามาคล้องแขนเขา ซบศีรษะลงบนท่อนแขน พงษ์ตอบแทนด้วยการยีผมยาวสลวยของน้องเล่น
“คิดถึงทำไมไม่ไปหาพี่บ้างล่ะ ช่วงนี้ส่วนใหญ่พี่อยู่กรุงเทพฯ ใกล้แค่นี้”
ในตอนที่พงษ์เพิ่งเรียนจบเขาเป็นพนักงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง จนต่อมาขยับขยายไปหุ้นกับเพื่อนทำธุรกิจขายเมล็ดกาแฟ ถึงตอนนี้เขากลายเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่รับเมล็ดกาแฟจากทางเหนือมาผ่านกระบวนการและส่งออก โดยเน้นกาแฟคุณภาพอันโดดเด่นไม่เหมือนใคร
“ปลายไม่ได้อยู่ว่างๆ นี่นา ช่วงที่ผ่านมาเวรถี่มาก เพิ่งวันนี้แหละที่ได้พักหน่อย”
“แล้วนี่ไอ้แดนมันไปไหน เพื่อนมาทั้งที ไม่มาต้อนรับกันเลย”
“พี่แดนอยู่ในไร่เผือกโน่นแน่ะ หลังๆ มานี้เห็นออกไปไร่แต่เช้า กว่าจะกลับก็เกือบค่ำ”
ปลายฝนพูดตามจริง เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ ระยะหลังแดนไทแปลกไป เขาชอบทำตัวให้ยุ่งๆ เข้าไว้ ราวกับหลบหน้าเธอ แถมยังปล่อยให้ลุงสง่ารับส่งเธอมากขึ้น ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันนัก
“มันทำอะไรของมันนักหนา อย่าบอกนะว่าจะหนีหน้าแก เพราะกลัวตกหลุมรักแกเข้า” คนเป็นพี่ชายดักคอ
“พี่พงษ์! พูดอะไรของพี่น่ะ พี่แดนไม่มีทางสนใจปลายหรอก ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเพิ่งอกหักช้ำรักมา คงเข็ดไปอีกนาน ที่สำคัญนะ ปลายไม่สนใจเรื่องรักๆ แล้ว เข็ดมาก”
“ต่างคนต่างเข็ด เดี๋ยวจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น อ้าว! มาโน่นแล้ว”
แดนไทตรงเข้ามาตบบ่าเพื่อน ต่อด้วยการเดินวนรอบรถที่เพื่อนขับมา
“รถน่ารักดีนี่ เล็กๆ แบบนี้ฝึกขับง่ายหน่อย ว่าแต่ทำไมมึงต้องขับมาให้เองด้วย ไหนตอนแรกว่าจะให้คนขับรถของบริษัทขับมาให้ไง”
“กูก็คิดถึงน้องกูบ้างสิวะ จะมาดูด้วยว่ามึงให้น้องกูอยู่ยังไง ลำบากลำบนไหม”
“ให้ปลายตอบต่อหน้ากูตอนนี้เลย กูก็อยากรู้เหมือนกัน” แดนไทยิ้มกว้าง แน่ใจมากว่าตนเลี้ยงดูน้องสาวเพื่อนอย่างดี
“ปลายไม่ลำบากหรอกค่ะพี่พงษ์ จะมีแค่อึดอัดนิดหน่อยที่หลังๆ มานี้ดูเหมือนพี่แดนไม่ค่อยอยากเจอหน้าปลายเท่าไร นี่ถ้าไม่ได้ขับไปรับส่งปลายที่โรง’บาลบางวัน คงไม่ได้เจอกันหรอก พี่แดนหมกตัวในไร่เผือกตลอดเลย”
“งานกำลังยุ่งน่ะ เป็นช่วงเก็บผลผลิตแล้วต้องพยายามหาทางแปรรูปเพิ่มมูลค่าไง” แดนไทออกตัว แล้วหันไปบอกเพื่อน “มึงมาเหนื่อยๆ ไปกินน้ำกินท่าในบ้านก่อน เย็นนี้นมเป่งเตรียมทำอาหารชาววังสารพัดชนิด กูบอกนมแล้วว่าไปกินข้างนอกก็ได้ แต่แกไม่ยอม อยากทำให้กินเอง ตื่นเต้นยกใหญ่ว่านานๆ มึงจะมาที่นี่สักที”
“คิดถึงนมเป่งเหมือนกันเนอะ” พงษ์เดินตามแดนไทไป มือจูงน้องสาวไปด้วย
“พี่พงษ์น่าจะค้างหน่อย” คนเป็นน้องทำเสียงอ้อนๆ
“ไม่เอาละ เกรงใจเจ้าของบ้าน พี่นัดคนขับรถให้มารับตอนค่ำๆ ขับกลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพฯ ใกล้แค่นี้”
ขณะเดินมุ่งตรงไปยังประตูเข้าบ้าน ทั้งสามได้ยินเสียงทักทายดังข้ามรั้วมาจากบ้านที่อยู่ติดกัน
“พงษ์! นั่นพงษ์นี่นา”
เสียงนั้นเป็นเสียงของนิอร หญิงสาวข้างบ้านซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับทั้งแดนไทและพงษ์
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **