คนอะไรขี้น้อยใจชะมัด
ปลายฝนบ่นในใจขณะมองตามหลังแดนไทซึ่งเดินดุ่มๆ ออกไปจากบ้าน
เธอพูดจริงนี่นา ดูเหมือนเจ้าของไร่หนุ่มเริ่มเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเธอมากเกินไปแล้ว จริงอยู่ที่เขาทำเพราะความห่วงใย แต่บางครั้งก็ดูเกินเหตุไปไม่น้อย
เรื่องของคเชนทร์นั้น ทำไมปลายฝนจะไม่รู้ บังเอิญเขาเป็นผู้ชายที่ไม่ซับซ้อน ดูออกง่าย อาการเจ้าชู้จึงชัดเจนขนาดนั้น ไหนจะความขี้โอ่อันโดดเด่นไม่มีปิดบังนั่นอีก แต่ด้วยความที่เขาเป็นลูกเพื่อนแม่ จึงไม่อาจตัดสัมพันธ์ได้รวดเร็วเท่าใจคิด เธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะค่อยๆ ห่างออกมา
คำพูดแปลกๆ ของแม่ตอนโทรศัพท์คุยกันหลังจากเธอพบคเชนทร์โดยบังเอิญแล้วรีบโทร.ไปเล่าให้แม่ฟังนั้นทำเอาปลายฝนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล...
‘เจอพ่อเชนก็ดีแล้ว ไหนๆ พูดขึ้นมา แม่ขอย้ำอีกครั้งนะว่าไอ้การที่ปลายย้ายไปสุพรรณเนี่ย แม่ไม่เห็นด้วยมาแต่ต้น แต่ก็จำยอมเพราะตอนนั้นจะย้ายตามหมอศรุต แต่พอเรื่องมันพลิก แม่ยังยอมให้ไปแบบเลยตามเลยก็เพราะเห็นว่ามีพ่อเชนอยู่ที่นั่นน่ะแหละ ไม่งั้นนะ แม่จะบังคับให้ย้ายกลับมาบ้านเราทางเหนือนี่เลย เอาให้ไกลสุดกู่จากสุพรรณเข้าไว้’
‘ถึงยังไงปลายก็ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อนค่ะแม่ เรื่องใหญ่คือปลายไปชวนน้ำปิงย้ายมาด้วยนั่นแหละ จะทิ้งน้ำปิงให้คว้างอยู่คนเดียวไม่ได้เด็ดขาด แล้วอีกอย่างแม่อย่าลืมว่าปลายเคยอยู่สุพรรณตั้งแต่เกิดจนสี่ขวบ ปลายก็รักที่นี่นะคะ รู้สึกสบายใจยังไงไม่รู้’
‘สบายใจกะผีสิ แม่จะบอกอะไรให้นะ สมัยลูกยังเด็กที่แม่ย้ายพวกเราทั้งครอบครัวมาอยู่เชียงใหม่ตอนนั้นน่ะ ก็เพราะดวงครอบครัวเราไม่สมพงศ์กับสุพรรณอย่างแรง อยู่ไปอาจถึงขั้นหายนะได้ แม่เลยขอให้พ่อทำเรื่องย้ายไง’
‘แม่อะ เชื่อหมอดูจนเกินเหตุ แล้วเป็นไงคะ พอย้ายไปทางเหนือ พ่อก็ไปเจอเมียใหม่เข้าที่นั่น จนแม่ต้องเลิกกับพ่อ ต่อด้วยแม่เจอผู้ชายคนใหม่ ใครจะรู้ว่าถ้ายังอยู่สุพรรณครอบครัวเราอาจจะมีความสุขกว่านี้ก็ได้’ ปลายฝนอดไม่ได้ที่จะเตือนสติแม่ผู้ถึงขั้นงมงายกับเรื่องนี้
‘เออน่า ตอนนั้นหมอดูทักเราก็ต้องทำตามไปก่อนไง’ แม่เสียงอ่อนลงเหมือนจะเริ่มคล้อยตาม แต่คำพูดต่อมาของท่านทำให้ปลายฝนถึงกับถอนใจ ‘ยังไงก็เถอะ กลับไปทำงานที่สุพรรณต้องระวังๆ หน่อยนะ แม่กังวลมากเลย ดวงยิ่งไม่ค่อยถูกกับที่นั่นด้วย แม่อดห่วงไม่ได้’
หญิงสาวยอมจำนนว่าคงเปลี่ยนความคิดแม่ไม่ได้จึงรีบบอก
‘ค่ะๆ ปลายจะดูแลตัวเองดีๆ แม่ล่ะคะ สบายดีหรือเปล่า พ่อเลี้ยงยังดูแลแม่ดีใช่ไหม’ ปลายฝนตัดบทพร้อมเปลี่ยนเรื่อง รู้ดีว่าสำหรับแม่น่ะ เรื่องเชื่อหมอดูและโชคลางนั้นอยู่ในกระแสเลือดไปแล้ว
‘ก็ตามสภาพแหละ โชคดีว่าคุณสิงห์รวยมาก เอาใจเก่งอีกต่างหาก แม่คงสบายไปทั้งชาติ ไม่ต้องเป็นห่วงเลย’
ปลายฝนฟังแล้วรู้สึกสะท้อนใจ แสดงว่าเหตุการณ์ในวันที่พ่อเลี้ยงเกือบจะล่วงเกินลูกสาวตัวเองไม่ได้ทำให้แม่สลดเลย แม่ยังหลงรักไอ้เฒ่าหัวงูคนนั้น และเทิดทูนเงินของมัน
จะว่าไปการที่พ่อแม่แยกย้ายกันไปมีคนใหม่นั้นกระทบใจปลายฝนมาตลอด เธอไม่เคยลืมความเจ็บปวดนั้นเลย พ่อกับแม่ทำราวกับว่าทันทีที่หย่าขาดจากกัน ต่างคนก็ต่างเริ่มใหม่กับคนใหม่ได้แบบไม่เหลือเยื่อใย จนบางครั้งปลายฝนยังสงสัยว่าตัวเองเกิดมาจากความรักหรือเปล่า และความรักที่งดงามนั้นมีอยู่จริงในโลกหรือไม่
‘แล้วถ้าพ่อเชนไปหาก็คุยๆ กับเขาบ้าง รู้จักกันไว้ไม่เสียหลายหรอก มีอะไรเรายังพึ่งพาเขาได้เหมือนญาติคนหนึ่ง ไม่อยากบอกว่าแม่ลองไปผูกดวงดูแล้วละ ปลายกับคเชนทร์เข้ากันได้ดีเลยนะ ดวงเกื้อกูลกัน’ แม่ยังคงพูดต่อ ในขณะที่ปลายฝนรู้สึกหมดหวังและเศร้าจับใจขึ้นมา
‘แม่คะ ปลายขอร้องเลยนะ อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตปลายโดยเฉพาะเรื่องคู่ครอง แม่ยังไม่เข็ดเหรอ ตอนหมอศรุต แม่ก็เอาดวงไปผูก หมอดูบอกว่าเป็นเนื้อคู่ แต่งแล้วจะเจริญก้าวหน้า แล้วเป็นไงคะ มันจริงที่ไหน ปลายอยากเตือนแม่ไว้อย่างหนึ่งว่าหมอดูสมัยนี้มีทั้งจริงทั้งหลอก ต้องเผื่อใจไว้บ้าง’
เท่านั้นเองนางเปรมสุดาจึงรีบวางสายไปทันที
ปลายฝนทอดถอนใจเมื่อคิดถึงเรื่องราวรอบตัวอันแสนจะวุ่นวาย รู้สึกได้เลยว่าที่ผ่านมาเธอทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ส่วนใหญ่ก็เพราะเรื่องรักๆ ใคร่ๆ นี่แหละ ทำเอาเบื่อหน่ายและไม่อยากเข้าใกล้ความรักเลย เพราะดูจะมีเรื่องราวให้ปวดใจไม่จบสิ้น
ขอพักก่อนเถอะ ขอพอแค่นี้
----------
“พี่เชน!”
ปลายฝนตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าคเชนทร์ในชุดสูทเต็มยศถือช่อดอกกุหลาบสีแดงเดินมาหาถึงห้องฉุกเฉินที่เธอทำงานอยู่ แม้จะเป็นช่วงพักเที่ยง แต่ยังมีเคสเข้ามาเรื่อยๆ และคเชนทร์ก็ไม่ควรวุ่นวายมาหาเธอแบบนี้
พยาบาลสาวรีบตรงเข้าไปหา สีหน้าเคร่งเครียด ในขณะที่คเชนทร์ยิ้มร่าบอกเธอว่า
“พี่เพิ่งประชุมกับท่านผู้ว่าฯ เสร็จ เห็นว่าพักเที่ยงแล้ว เลยแวะมาหา ว่าจะมาชวนปลายไปกินข้าวด้วยกัน”
“พี่เชนคะ ปลายไม่ได้ทำงานออฟฟิศนะคะ จะได้มีพักเที่ยงตามเวลา นี่เป็นโรงพยาบาล ยิ่งเป็นห้องฉุกเฉินวุ่นทั้งวันแหละค่ะ ปลายขอร้องละ วันหลังอย่ามาวุ่นวายถึงที่ทำงานอย่างนี้เลยนะคะ”
คเชนทร์หน้าเสียจนปลายฝนใจอ่อน จำต้องส่งยิ้มจางๆ ให้
“ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ นะคะ ปลายรู้ว่าพี่เชนไม่คุ้นกับการทำงานในโรงพยาบาล แต่ก็ประมาณนี้แหละค่ะ ถ้าให้ดี ก่อนเจอกัน พี่โทร.มานัดล่วงหน้าดีกว่านะคะ เราเจอกันนอกเวลางานคงสะดวกกว่า”
“พี่หวังดี อยากให้ปลายสดชื่น เลยเอาดอกไม้มาให้แล้วกะพาออกไปกินข้าวสักแป๊บ แต่ถ้าทำไม่ได้ พี่ก็ขอโทษด้วย วันหลังจะนัดเจอกันข้างนอก ขออย่างเดียวให้ปลายยอมไปเจอพี่บ้าง เพราะเท่าที่ลองนัดดู ปลายยังไม่เคยตกลงสักครั้ง อ้างว่าติดงานๆ”
จะว่าไปก็จริง หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปลายฝนพยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอด เธอไม่อยากพบคเชนทร์เลย ไม่ว่าที่ไหน เขาคงไม่รู้ว่าช่วงนี้เธอแสนจะเบื่อเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ยังไม่อยากเริ่มใหม่กับใครทั้งสิ้น
“เอาเป็นว่าครั้งหน้าถ้าพี่นัด ปลายจะไปนะคะ แต่วันนี้ปลายกำลังหัวหมุนเลย คนไข้เยอะมาก” พยาบาลสาวตัดบทแบบไม่กลัวคเชนทร์โกรธ เธอเกรงใจเพื่อนร่วมงานมากกว่า การมีผู้ชายมาหา มาชวนคุยในเวลางานไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมนัก
“โอเค งั้นพี่กลับก่อน แต่ปลายคงรับดอกไม้ไว้ได้เนอะ แล้วก็นี่ แม่พี่ฝากขนมไทยอร่อยๆ มาให้ด้วย”
คเชนทร์ส่งช่อดอกไม้และถุงบรรจุขนมไทยเจ้าดังให้หญิงสาว ก่อนจะขอตัวกลับไป
----------
ทำเป็นเล่นตัวดีนัก ทีกับไอ้แดนไทละก็ ปลายฝนกลับให้ความสนิทสนมจนออกนอกหน้า
ทำไมคเชนทร์จะไม่รู้ เขาสะกดรอยตามจนเห็นกับตามาหลายครั้ง แน่ใจแล้วว่าแดนไทสนใจผู้หญิงคนนี้ ไอ้คนเถื่อนแสนทื่ออย่างมัน ไม่เคยสนิทกับสาวไหนขนาดนั้น เขารู้ด้วยสัญชาตญาณว่าแดนไทชอบปลายฝนมาก
และมีหรือที่คเชนทร์จะยอมให้คู่ปรับตลอดกาลอย่างมันได้สมหวัง คนอย่างแดนไทที่เป็นเหมือนเสี้ยนหนามทำธุรกิจของเขาลุ่มๆ ดอนๆ เพราะชาวไร่ชาวสวนลดการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง แดนไททั้งให้ความรู้ทั้งไปสาธิตวิธีการทำเกษตรอินทรีย์จนชาวบ้านเริ่มสนใจและทำตามกัน ผลกระทบตามมาคือบริษัทสาขาที่สุพรรณบุรีซึ่งคเชนทร์รับผิดชอบดูแลนั้นแย่ลงเรื่อยๆ
แบบนี้แล้วจะไม่ให้เขาคิดแก้แค้นหรือ ในเมื่อโอกาสเหมาะๆ มาถึงอย่างเหลือเชื่อ
อะไรก็ตามที่ไอ้แดนไทสนใจ เขาจะแย่งมันมาให้หมด ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง
ยิ่งถ้าเป็นปลายฝนที่ทั้งแม่เธอและแม่เขาหมายมั่นจะให้ลองคบกันอยู่แล้วคเชนทร์ยิ่งไม่มีวันยอมแพ้ ไม่ปล่อยให้หลุดมือไปเป็นอันขาด
เขาต้องชนะใจพยาบาลสาวจอมเล่นตัวคนนี้ให้ได้ เพื่อความสะใจที่ได้เห็นหัวใจของศัตรูถูกขยี้จนย่อยยับคามือ
ติดตามต่อในฉบับเต็มทั้งแบบ หนังสือเล่ม และ อีบุ๊ก