บ้านปีกไม้หลังนี้ภายในใหญ่โตกว่าที่คิดไว้มาก บนชั้นสองถูกแบ่งเป็นห้องนอนได้หลายห้อง แต่ยังเหลือพื้นที่ส่วนกลางไว้ตั้งโซฟานุ่มๆ ให้นั่งเล่น มีโทรทัศน์จอใหญ่ติดผนังอีกด้วย
ปลายฝนสูดหายใจลึก รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เมื่อครู่ตอนที่เธอลงจากรถสองแถวตรงหน้าไร่ ยืนมองป้ายที่ทำจากไม้แผ่นใหญ่ แกะสลักตัวหนังสืออ่อนช้อยว่า ‘บ้านไร่ใจรัก’ นั้น เธอออกจะหวั่นเกรงไม่น้อย เดาไม่ถูกเลยว่าต้องเจออะไรในบ้านไร่แสนกว้างใหญ่แห่งนี้
จริงอยู่ที่สมัยยังเด็ก เธอจำได้ถึงความใจดีแสนอบอุ่นของแดนไท แต่ทำไมล่าสุดที่เจอกันเขาดูห้าวๆ กร้าวแกร่งในร่างกำยำจนรู้สึกน่าเกรงขาม เขาดูเปลี่ยนไปจากเดิมมากทีเดียว
หญิงสาวปลอบใจตัวเองว่าในเมื่อเวลาเปลี่ยน คนจะไม่เปลี่ยนได้อย่างไร
ก่อนก้าวเท้าเข้าสู่รั้วบ้านไร่ของแดนไท ปลายฝนจึงพยายามทำใจให้แช่มชื่นด้วยการยิ้มน้อยๆ กับป้ายไม้ที่ติดไว้ใกล้ประตูทางเข้า ที่แกะสลักเป็นรูปดอกไม้ใบไม้อ่อนช้อยล้อมกรอบไปตามแนวแผ่นไม้สี่เหลี่ยม เป็นป้ายชื่อไร่ที่น่ารักอบอุ่น ดูไม่เข้ากันอย่างแรงกับความแข็งกร้าวของเจ้าของไร่
เสียงนมเป่งดึงปลายฝนออกจากภวังค์...
“คุณปลายทำตัวตามสบายเลยนะคะ สมัยเด็กๆ ยังไม่เคยขึ้นมาบนชั้นสองนี่นา วิ่งเล่นกันที่ชั้นล่างซะส่วนใหญ่” นมเป่งถึงกับหอบเบาๆ หลังพาแขกขึ้นมาถึงชั้นสองของตัวบ้าน
“ใช่ค่ะ นมเป่งจำเก่งจัง ปลายไม่เคยขึ้นมาบนนี้เลย ขนาดชั้นล่างปลายยังเลือนๆ ไปบ้างแล้ว จำเค้าเก่าไม่ค่อยได้ เหมือนจะปรับปรุงขึ้นเยอะนะคะ” หญิงสาวกวาดตามองไปรอบกาย
“ใช่ค่ะ คุณแดนน่ะปรับปรุงบ้านครั้งใหญ่หลังแต่งงานค่ะ ทำซะน่าอยู่ขึ้นเยอะ ทันสมัยขึ้นอีกต่างหาก”
“พี่แดนคงรักภรรยามากเลย น่าเห็นใจนะคะ ต้องจากกันแบบนี้ คงทำใจลำบากแย่ สงสารน้องเดี่ยวด้วย”
“จริงค่ะ ตอนนั้นคุณแดนเศร้าอยู่นานเลยละ ถึงจะแต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่จัดให้ แต่อยู่กันไปก็รักกันแหละนะคะ ยิ่งตอนคุณไข่มุกตั้งท้องตอนนั้นคุณแดนเอาใจเมียมาก แต่คุณไข่มุกไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว คลอดลูกออกมาก็เสียเลย”
“คงเป็นผู้หญิงในรูปนั้นใช่ไหมคะนม”
ปลายฝนเงยหน้าขึ้นมองภาพติดผนังไม่ไกลจากโทรทัศน์นัก หญิงสาวในชุดเจ้าสาวยืนยิ้มอยู่ในอ้อมกอดของแดนไท เธอดูอ่อนหวาน บอบบางน่าทะนุถนอม
“นั่นละค่ะ คุณไข่มุกแม่น้องเดี่ยว”
“สวยจังนะคะ”
“สวยหวานมากๆ ค่ะ แต่ติดจะขี้โรคนิดหนึ่ง น่าเสียดายที่จากไปไว” นมเป่งตามด้วยการตัดบท “เอาละ นี่ค่ะคุณปลาย ห้องคุณปลายอยู่ทางปีกซ้ายนะคะ ส่วนห้องปีกขวาตรงข้ามกันน่ะเป็นห้องคุณแดน”
“แล้วน้องเดี่ยวนอนที่ไหนคะ”
“น้องเดี่ยวนอนห้องโน้นค่ะ” นมเป่งชี้ไปทางห้องที่อยู่ส่วนหลังของตัวบ้าน “คุณแดนเพิ่งบังคับให้แยกห้อง ช่วงแรกๆ นี้นมเลยไปนอนเป็นเพื่อน คอยดูแลก่อน อีกสักระยะค่อยปล่อยให้นอนคนเดียว ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ นมละสงสารจะแย่ น้องเดี่ยวติดพ่อค่ะ แต่เห็นคุณแดนบอกว่าสมัยใหม่เขาให้นอนแยกห้องตั้งแต่ยังเล็ก”
“ดีแล้วละค่ะ ยังไงก็ควรฝึกให้นอนในห้องส่วนตัว”
“คุณปลายจัดของตามสบายเลยนะคะ นมขอตัวไปดูในครัวหน่อย นมดีใจจริงๆ ที่คุณปลายมาพักที่นี่ อยู่นานๆ เลยนะคะ”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ ปลายรู้ดีว่าพี่แดนไม่ได้อยากให้ใครมาวุ่นวายในบ้าน แต่ปลายจำเป็นจริงๆ เดี๋ยวพอน้ำปิงเพื่อนปลายย้ายมาสุพรรณ ปลายก็จะกลับไปพักที่แฟลตพยาบาลกับเพื่อนค่ะ”
นมเป่งเดินออกไปจากห้อง ท่าทางยินดีและเป็นกันเองของหญิงสูงวัยนั้นทำให้ปลายฝนสบายใจขึ้น แม้ลึกๆ จะรู้ว่าเจ้าของบ้านไม่เต็มใจต้อนรับมาตั้งแต่แรก แต่ก็ต้องทำใจ เพราะเธอเองก็ทนไม่ไหวกับการต้องพักในแฟลตใกล้ๆ บ้านพักของศรุต ขอเจอหน้ากันแค่ตอนทำงาน พอเลิกงานแล้วต่างคนต่างไกลกันให้มาก คงปลอดภัยกับเธอที่สุด
----------
“เสร็จหรือยัง ถ้าพร้อมก็ลงไปกินข้าว พี่จะออกไปส่งน้องเดี่ยวแล้วส่งปลายด้วยเลย”
แดนไทตะโกนผ่านบานประตูห้องของปลายฝน เขาไม่อยากให้ลูกไปโรงเรียนสายจึงจำต้องบอกล่วงหน้า ใครจะไปรู้ว่าปลายฝนอาจแต่งตัวนานตามประสาสาวๆ หรือเปล่า เขาจึงควรบอกไว้ก่อนตั้งแต่ยังเช้าๆ นี่ละ
“ค่ะพี่แดน เดี๋ยวปลายลงไป” ปลายฝนตะโกนตอบ
แล้วใครจะเชื่อว่าอีกไม่ถึงสิบนาทีหญิงสาวในชุดพยาบาลก็เดินลงมาด้วยสีหน้าแจ่มใส ส่วนน้องเดี่ยวนั้นถึงกับวิ่งจากโต๊ะกินข้าวไปหาปลายฝนที่บันได
“อาปลาย ไปกินข้าวด้วยกันครับ” เด็กชายคว้ามือเรียวของแขกไปกุมไว้แล้วจับจูงให้เดินตาม
สนิทกันไวจริง! ไม่รู้ทำไมน้องเดี่ยวถึงได้ดูตื่นเต้นดีใจกับการที่ปลายฝนเข้ามาอยู่ในบ้านนัก แดนไทอดสงสัยไม่ได้ แต่คำตอบก็วิ่งเข้ามาในหัวทันที...
คงเพราะความเหงานั่นแหละ เด็กวัยอนุบาลย่อมอยากให้มีคนเล่น คุยด้วย การที่มีปลายฝนเข้ามาคงทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้น ที่ผ่านมาตั้งแต่พริกหวานพี่เลี้ยงลาจากไปแบบกะทันหัน น้องเดี่ยวดูเหงาๆ อย่างเห็นได้ชัด
เด็กน้อยจูงมือปลายฝนมาจนถึงโต๊ะอาหาร จัดการให้แขกนั่งลงข้างตัวเอง ซึ่งมันตรงข้ามกับแดนไทพอดี เขาสบตาปลายฝน นาทีนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ หัวใจชายหนุ่มเต้นรัวแรงเป็นกลองโดยหาสาเหตุไม่เจอ
ตื่นเต้นที่มีสาวเข้ามาอยู่ในบ้านอย่างนั้นหรือ
ก็ไม่เชิงนะ แดนไทรีบปรามตัวเองว่าเขาไม่ควรทำตัวราวกับเด็กหนุ่มที่ไม่เคยเข้าใกล้สาวๆ ทั้งที่ความจริงนั้นผ่านมาหลายสาวแล้ว...และทุกคนล้วนจากเขาไปหมด ไม่จากตายก็จากเป็น
คิดแล้วแดนไทถึงกับขนลุก ไม่ล่ะ เขาเข็ดแล้ว เข็ดมากๆ กับการเป็นคนถูกทิ้ง ถึงกับเคยตั้งปณิธานไว้หลังจากพริกหวานพี่เลี้ยงน้องเดี่ยวทิ้งเขาไปแบบสายฟ้าแลบ ว่าเขาจะไม่ยอมเจ็บปวดกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อีกแล้ว
นมเป่งจัดการตักข้าวต้มหมูสับใส่ชามให้ปลายฝน สีหน้าอิ่มบุญของแม่นมนั้นแดนไทรู้ทัน นางดีใจจนเนื้อเต้นที่มีสาวๆ เข้ามาใกล้หัวใจเขา ยิ่งเป็นสาวที่นางรู้จักคุ้นเคยดียิ่งดูจะลุ้นสุดตัวจนออกนอกหน้า
“มื้อเช้านี้คุณปลายกินข้าวต้มง่ายๆ ไปก่อนนะคะ แต่บอกไว้ก่อนว่ามื้อเย็นนมจะจัดเต็มค่ะ จะทำทอดมันกุ้ง ผัดผักรวมแล้วก็แกงบวน
ปลายฝนถึงกับขมวดคิ้วกับชื่ออาหารสุดท้ายที่นมเป่งอวด
“แกงบวนเหรอคะนม ปลายไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย”
“โอ๊ย! ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะไม่รู้จัก แกงบวนน่ะเป็นแกงโบราณภาคกลางของไทยนี่แหละ สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเขาทำกินกันแล้ว ขนาดสมัยก่อนยังแกงเฉพาะตอนมีงานบุญเลย แต่นมอยากต้อนรับคุณปลายให้เอิกเกริกหน่อย เลยจะทำให้กินเย็นนี้ค่ะ”
“ทำยากไหมคะนม” หญิงสาวถามด้วยความเกรงใจ
“ยากแต่นมทำได้สบายมาก ให้เด็กๆ ช่วย ตามสูตรต้องใส่น้ำคั้นจากใบผักสารพัดชนิดตั้งแต่ตะไคร้ ขึ้นฉ่าย ใบมะตูม ผักชี ใบข่า ใบมะขวิด จะได้กลบกลิ่นคาวของเครื่องใน ไม่รักกันจริงไม่ทำให้กินนะคะเนี่ย งานนี้นมทุ่มสุดฝีมือเลยค่ะ”
“เอาแต่พอดีเถอะนม อย่าออกนอกหน้าให้มันมากนัก ทำกับข้าวยากๆ เล่นใหญ่ขนาดนั้นเดี๋ยวก็มาบ่นปวดเนื้อเมื่อยตัวอีก” แดนไทปรามแม่นมของตน
“จริงค่ะ นมอย่าลำบากเลยนะคะ ปลายเกรงใจ” ปลายฝนก็เห็นด้วย
“โธ่...นมขอละค่ะ โดยเฉพาะวันแรกที่คุณปลายเข้ามาอยู่บ้านไร่นี้ นมต้องจัดสักหน่อย ถือเป็นการฉลอง”
“งั้นก็ตามใจ ห้ามได้ซะที่ไหน เห็นแบบนี้ นมเป่งน่ะดื้อเอาเรื่อง ยิ่งแก่ยิ่งดื้อ” แดนไทแอบฟ้องเล็กๆ
“นมติดเชื้อดื้อจากคุณแดนนั่นแหละ นมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าให้รับคุณปลายมาพักที่นี่ด้วยก็ไม่เชื่อ แล้วเป็นไง สุดท้ายต้องให้มาพักอยู่ดี คุณแดนของนมไม่ใช่คนใจจืดใจดำสักหน่อย” นมเป่งย้อนศรพร้อมย้ำปม ‘ใจดำ’ จนแดนไทหน้าเสีย รีบกลบเกลื่อน
“พอเลยๆ รีบกินข้าวกันเถอะ น้องเดี่ยวก็ด้วย อย่ามัวแต่ฟังนมเป่งโม้ รีบกิน รีบไป เดี๋ยวสายกันพอดี”
เมื่อทุกคนกินข้าวเช้าเสร็จแล้วแดนไทจึงเดินนำไปขึ้นรถ โดยมีน้องเดี่ยวจูงมือปลายฝนเดินตามไป ปิดท้ายด้วยนมเป่งที่หิ้วกระเป๋านักเรียนไปส่งถึงรถด้วยใบหน้าเบิกบานถึงขีดสุด นางยืนมองจนกระทั่งรถลับตาไป
“คอยดูเถอะ งานนี้คุณแดนต้องได้เมียใหม่ อีเป่งเอาหัวเป็นประกันเลย” นมเป่งหันไปคุยกับสง่าคนขับรถซึ่งเช้านี้ว่างงาน เพราะแดนไทจัดการไปส่งลูกเอง ต่อด้วยไปส่งพยาบาลสาวถึงที่ทำงานอีกต่างหาก
“ทำไมมั่นใจขนาดนั้นล่ะพี่เป่ง”
“ดูแววตาคุณแดนเสียก่อน เคยไหมล่ะที่จะหยาดเยิ้มปนความเอ็นดูขนาดนั้น คนมันเคยสนิทกันตั้งแต่เด็กอะเนอะ ความผูกพันแน่นหนาจะตาย นี่แหละน้า เขาว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน ผ่านมานับยี่สิบปียังกลับมาเจอกันอีกจนได้”
“แน่ใจได้ไงว่าคุณแดนจะเปิดใจน่ะ แกเข็ดกับเรื่องสาวๆ จะตายไป พี่เป่งก็รู้” สง่ายังท้วงไม่เลิก
“แต่คุณปลายไม่ใช่สาวๆ ทั่วไปนะเว้ย เธอเคยเป็นน้องปลายของพี่แดน พี่แดนคอยปกป้องเธอมาตลอด ความผูกพันวัยเด็กน่ะ ไม่ใช่เล่นๆ นะ งานนี้ฉันดูไม่ผิดหรอก แกคอยดูสิ”
นมเป่งเชิดหน้าชูคอแสดงความมั่นอกมั่นใจเกินร้อย
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **