อีกไม่ถึงชั่วโมงต่อมา คำตอบเรื่องความรักก็ประจักษ์แจ้งแก่ใจแดนไท
หลังส่งลูกลงตรงหน้าโรงเรียนเสร็จ ชายหนุ่มรีบบึ่งไปดูสถานการณ์ที่หน้าโรงพยาบาล ความจริงเขาแค่จะจอดซุ่มดูว่าปลายฝนถอยรถเข้าจอดเองได้จริง และขับขี่ด้วยความปลอดภัยจนถึงจุดหมาย แต่ภาพที่แดนไทเห็นในลานจอดรถนั้นทำเอาเขาเลือดขึ้นหน้า
ไอ้หมอรุตนั่นอีกแล้ว!
พอเห็นว่าปลายฝนขับรถมาเอง มันรีบปรี่เข้าไปช่วยโบกมือบอกตำแหน่งและทิศทาง เท่านั้นไม่พอ ยังเอื้อมไปเปิดประตูรถให้อย่างน่าหมั่นไส้
แต่โชคดีว่าเท่าที่เห็น ปลายฝนหน้าบึ้งตึงในทันที เธอพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้หมอศรุตล่าถอยไป
แต่ๆๆ
พอหมอศรุตเดินจากไป นับหนึ่งยังไม่ถึงสิบก็มีชายหนุ่มอีกคนเดินเข้าไปหาปลายฝน แม้จะเห็นจากที่ไกลๆ แต่แดนไทจำได้แม่น
คเชนทร์! ไอ้เชนนั่นไปรู้จักปลายฝนได้ยังไง
คงไม่ใช่แค่รู้จัก แต่ปลายฝนซึ่งแรกๆ ดูท่าทางประหลาดใจที่ได้พบ แต่ต่อมาเธอรีบยกมือไหว้คเชนทร์ แถมยังส่งยิ้ม พูดคุยอย่างสนิทสนมขณะเดินเคียงข้างกันออกไปจากลานจอดรถ มุ่งสู่โรงพยาบาล
แดนไทพยายามจับต้นชนปลายว่าปลายฝนไปรู้จักกับคเชนทร์ คู่ปรับเก่าเขาได้อย่างไร
แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าทำไมสองคนนั่นจึงสนิทสนมกันนัก
แม้จะดูเสือก แต่งานนี้แดนไทต้องรู้ให้ได้ว่าทำไม!
----------
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
เย็นนี้แดนไทลงทุนออกจากไร่กลับบ้านเร็วกว่าปกติเพื่อรอพบปลายฝน หญิงสาวเสน่ห์แรงที่ดูเหมือนจะรู้จักหนุ่มๆ ไปทั่ว แถมแต่ละคนดีกรีความหล่อไม่ยิ่งหย่อนต่อกันเลย
“พี่แดนกลับบ้านแต่วันเชียว น้องเดี่ยวกลับจากโรงเรียนหรือยังคะ”
หญิงสาวในชุดพยาบาลทักทายด้วยสีหน้าสดชื่นแจ่มใสแม้จะเพิ่งเลิกงานกลับมาแท้ๆ
“ลุงหง่าไปรับกลับมาแล้ว นมเป่งให้กินขนมอยู่ ส่วนปลายน่ะ มานี่เลย พี่มีเรื่องจะถาม”
น้ำเสียงของแดนไทเข้มจัดจนปลายฝนขมวดคิ้ว แต่ยังเดินตามเขามาจนถึงระเบียงหน้าบ้าน เมื่อนั่งลงตรงข้ามกันแล้วแดนไทจึงเริ่ม
“ปลายไปรู้จักไอ้คเชนทร์ได้ไง”
แทนที่จะตอบคำถามเขา เธอกลับถามเสียงดังลั่น
“อย่าบอกนะว่าพี่แดนขับตามปลายไปถึงโรง’บาลจริงๆ พี่ทำแบบนี้ทำไมคะ”
“แล้วปลายล่ะ ทำไมต้องขัดขวางไม่ให้พี่ตาม หรือเป็นเพราะไอ้บ้าเชนนั่นมันเริ่มมาจีบแล้วไม่อยากให้พี่รู้ใช่ไหม”
“ไปกันใหญ่แล้ว ปลายกับพี่เชนรู้จักกันมานานแล้วนะ แม่พี่เชนกับแม่ปลายเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วพอดีเพิ่งรู้ว่าพี่เชนทำธุรกิจแถวสุพรรณนี่ด้วย เขารู้ว่าปลายย้ายมาโรง’บาลที่สุพรรณก็เลยมาหาแค่นั้นเอง” พูดจบปลายฝนนึกเจ็บใจตัวเอง ธุระอะไรเธอถึงต้องมานั่งอธิบายเรื่องส่วนตัวกับผู้ชายที่ไม่ใช่แม้แต่ญาติ แดนไทละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเธอมากไปแล้ว
“ปลาย...พี่ขอพูดตรงๆ เลยนะ ว่าไอ้นั่นน่ะ ไม่ธรรมดามันไม่ใช่คนดีอย่างที่เห็นหรอก”
แดนไทตัดสินใจพูดออกไปทั้งที่รู้ว่ามันออกจะแปลกที่จู่ๆ เขาเหมือนให้ร้ายคนอื่นแถมนินทาลับหลังอีกต่างหาก
“ทำไมพี่แดนกล้าสรุปแบบนั้นทั้งที่ไม่รู้จักกันสักหน่อย”
“ใครว่าไม่รู้จักล่ะ บอกตามตรง วันนี้พี่คิดทั้งวันว่าควรคุยกับปลายไหม มันดูเป็นเรื่องส่วนตัวของปลายก็จริง แต่พี่ยอมไม่ได้ถ้าต้องเห็นปลายเจ็บปวดซ้ำอีก”
“ยังไงนะคะ ปลายงงไปหมดแล้ว” หญิงสาวขมวดคิ้วจ้องหน้าเขาเพื่อหาคำตอบ
“พี่รู้จักไอ้เชนดี ดีมากๆ ด้วย เพราะมันมาบุกทำธุรกิจเกี่ยวกับปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช มาเน้นการตลาดในสาขาสุพรรณนี่ ในขณะที่ไร่เผือกกับพืชผักที่พี่ทำอยู่เป็นระบบปลอดสาร” เจ้าของไร่หนุ่มสรุปอย่างรวบรัด
“แล้วไงคะ ต่างคนต่างมีอาชีพของตัวเอง ผิดตรงไหน พี่แดนอะ ทำปลายงงไปหมดแล้ว”
แดนไทสูดลมหายใจ นาทีนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าอย่างไรก็ควรเล่า
“ปลายรู้ไหมว่าทำไมอยู่ๆ พี่ถึงเปลี่ยนเป็นระบบปลอดสารทั้งหมด”
เมื่อเห็นปลายฝนนั่งนิ่งตั้งใจฟัง แดนไทจึงเล่าต่อ
“ตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อพี่ ตอนนั้นยังปลูกแบบใส่ปุ๋ย ใช้ยาฆ่าแมลงตามที่เคยทำกันมา แต่มันมีจุดเปลี่ยนคือพ่อพี่ป่วยหนักเพราะสารพิษตกค้างในร่างกาย จนในที่สุดต้องเลิกทำไร่ ย้ายไปอยู่กับพี่สาวพี่ที่เป็นพยาบาลอยู่อเมริกา ส่วนพี่ก็เริ่มรณรงค์ให้ชาวบ้านแถวนี้เลิกใช้สารเคมี เพราะมันอันตรายต่อร่างกาย ทีนี้ปลายคงคิดออกว่าทำไมไอ้เชนกับพี่ถึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน พี่คือตัวขัดขวางไม่ให้ธุรกิจมันเติบโตไงล่ะ มันเกลียดพี่เข้าไส้ แต่พี่ไม่สนหรอก ตอนนี้สนแค่ว่าทำไมไอ้บ้านั่นต้องมายุ่งกับปลายด้วย งงมาก ที่สำคัญนะ ไอ้เชนมันเจ้าชู้จนโด่งดังในเรื่องนี้อีกต่างหาก ถ้าปลายยังไม่รู้ก็รู้ไว้ซะ”
ปลายฝนยังควบคุมตัวเองได้ดี เธอนั่งตัวตรง บอกเขาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“พี่แดนคะ สรุปแล้วตอนนี้พี่ให้ร้ายคนที่ปลายรู้จักว่าเขาทั้งตั้งตัวเป็นอริทางธุรกิจกับพี่ แล้วยังเจ้าชู้อีกต่างหาก แต่ลองคิดสักนิดนะคะว่าพี่ล้ำเส้นเกินไปหรือเปล่า ปลายจะคุยหรือรู้จักกับใคร ให้ความสนิทสนมแค่ไหนปลายคิดเองได้นะคะ ทำไมต้องมาชี้แนะ ทำเหมือนปลายเป็นเด็กที่ไม่มีสมองด้วย คนที่พี่เกลียด ปลายต้องเกลียดไปด้วยเหรอคะ มันเกี่ยวกันตรงไหน”
แดนไทถึงกับอึ้ง จริงสินะ ด้วยความโผงผางใจร้อนทำให้เขาด่วนสรุปและชี้นำแกมบังคับ จนตอนนี้แทบจะกลายเป็นไอ้ตัวร้ายปากสว่างไปแล้ว ทั้งที่ในใจมีแต่ความหวังดีแท้ๆ คงเพราะนิสัยแบบนี้เอง ทำให้เขาต้องอกหักและผิดหวังมาตลอด เขาควรเตือนตัวเองว่าให้ถอยออกมาสักก้าว อย่าทำให้ปลายฝนอึดอัดมากไปกว่านี้
“เอาเป็นว่าพี่ขอโทษ พี่เป็นห่วงจนลืมนึกไปว่าปลายพิจารณาเองได้ว่าจะคบหรือไม่คบใคร พี่...แค่อยากให้ปลายดูดีๆ หน่อยละกัน”
ชายหนุ่มก้มหน้ามองพื้น รู้สึกผิดจนบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะภาพปลายฝนในชุดเจ้าสาวที่ยืนหน้าซีดบนเวทีพร้อมแววตาตื่นตระหนกนั้นติดตาติดใจจนเขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก
“ค่ะพี่แดน เอาเป็นว่าปลายขอบคุณที่ช่วยเตือน เพราะจะว่าไปปลายก็ไม่ได้ฉลาดอะไรนักหรอก ถ้าฉลาดจริงคงไม่ถูกหลอกจนเกือบแต่งงานกับคนที่มีเมียแล้ว”
น้ำเสียงปวดร้าวของปลายฝนทำเอาหัวใจแดนไทเหมือนถูกบีบ เป็นเพราะความสงสารนี่แหละที่ทำให้เขาอยากปกป้องเธอ อยากคอยป้องกันไว้ก่อนในทุกเรื่อง แต่ก็นั่นแหละนะ เธอไม่ใช่เด็กหญิงปลายฝน เธอโตแล้ว เขาควรขีดขอบเขตว่าทำได้แค่ไหน ต้องไม่พลาดทำอะไรโง่ๆ แบบนี้อีก
“เอาละ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เอาเป็นว่าปลายรู้คร่าวๆ แล้วว่าคเชนทร์มันทำมาหากินอะไร พื้นเพเป็นคนยังไง พี่คงทำได้แค่นี้ ส่วนนิสัยใจคอก็ดูดีๆ หน่อยละกัน พี่ไปก่อนนะ อีกสักพักทุกคนกินข้าวเย็นกันตามปกติ วันนี้พี่มีธุระ คงไม่ได้กินข้าวด้วย”
แดนไทเดินออกจากบ้านมุ่งตรงสู่ไร่เผือกของเขา ทั้งที่ไม่ได้มีธุระใดๆ อย่างที่อ้างไว้สักนิด
ติดตามต่อในฉบับเต็มทั้งแบบ หนังสือเล่ม และ อีบุ๊ก