ทดลองอ่าน ฝากรักไว้ที่ปลายฝน : ตอนที่ 3

 

 

ตอนที่ 3

 

 

“กูอยากเจอมึง ไอ้แดน ออกมาเจอกูที่ร้านริมท่าจีนตอนหกโมงเย็นนะ กูขอร้อง”

น้ำเสียงแฝงความอึดอัดไม่สบายใจของเพื่อนที่โทรศัพท์มาหาแต่เช้าทำเอาแดนไทรีบตอบแบบไม่ต้องคิด

“ได้เลยไอ้พงษ์ เย็นนี้เจอกัน”

จนถึงบ่ายๆ อย่างนี้ แดนไทยังไม่วายกังวล คาดว่าต้องมีเรื่องหนักๆ เกิดกับพงษ์แน่จึงถึงขั้นโทรศัพท์มาขอคุยด้วย

ว่าแต่จะมีเรื่องไหนหนักกว่าการที่น้องสาวถูกฉีกหน้ากลางงานแต่งคราวนั้นอีกหรือ นั่นแหละคือสิ่งที่แดนไทอดห่วงไม่ได้จนแทบเร่งเวลาให้ถึงหกโมงเย็นเร็วๆ

“เย็นนี้ผมไม่กินข้าวบ้านนะนมเป่ง พอดีนัดกับเพื่อนไว้ที่ร้านอาหาร ผมจะไปรับน้องเดี่ยวที่โรงเรียนตามปกติแล้วพามาบ้านก่อน ฝากนมดูแลต่อด้วย”

แดนไทบอกแม่นมร่างท้วมของเขาซึ่งยืนอยู่ตรงโถงกลางบ้าน ใบหน้ากลมเป่งสมชื่อของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ได้เลยค่ะคุณแดน แหม่ นมดีใจนะคะที่คุณแดนออกไปเจอเพื่อนฝูงบ้าง ไม่เอาแต่เหงาเศร้าอยู่กับบ้าน ลืมไปได้แล้วนะคะยายพริกหวานจอมแสบนั่นน่ะ เลิกเจ็บปวดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้แล้ว โดนเขาทิ้งขนาดนี้ยังไปอาลัยอาวรณ์ทำไม หล่อๆ แสนดีอย่างคุณแดนของนม จะหาใหม่เมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ขอแค่เปิดใจสักหน่อย”

“พอเลยนมเป่ง หยุดพูดเรื่องผู้หญิงเสียที ผมทั้งเบื่อทั้งเข็ด พักก่อนเลย ต่อไปนี้ขอโฟกัสเรื่องลูกเท่านั้น” แดนไทยืนยันเจตนารมณ์ซึ่งเคยบอกนมเป่งไปแล้วร้อยรอบ

“คุณแดนคะ” นมเป่งที่เลี้ยงแดนไทมาตั้งแต่เกิดแตะมือลงบนท่อนแขนเขา จ้องตาแล้วว่า “นมขอเปิดใจพูดนะคะ คุณแดนน่ะยังหนุ่มยังแน่น จะเป็นม่ายเมียตายไปตลอดชีวิตไม่ได้นะคะ ยังไงก็ต้องหาสาวๆ มาเป็นคู่คิด ที่สำคัญมาเป็นแม่ของลูก อย่าลืมว่าน้องเดี่ยวต้องการแม่ ยังไงเขาควรมีแม่ที่รักและดูแลไปจนโต เราต้องหาคนดีๆ มาเป็นแม่น้องเดี่ยวให้ได้ ขอแค่คุณแดนค่อยๆ ดู ค่อยๆ เลือกไป ไม่ใช่เอาแต่ปิดตายประตูหัวใจตัวเอง แบบนี้นมไม่เห็นด้วยนะคะ อีกอย่าง ยายพริกหวานอะไรนั่นก็ทิ้งคุณแดนไปตั้งหลายเดือนแล้ว คุณแดนเริ่มต้นใหม่ได้แล้วค่ะ อย่าทำใจเย็นไปนะคะ อย่าลืมว่าอายุอานามคุณแดนน่ะล่อเข้าไปตั้งสามสิบสี่แล้ว ไม่ต้องรอช้าหรอกค่ะ รีบหาคนใหม่ไวๆ เลย เดี๋ยวก็แก่ไม่มีกำลังกันพอดี”

“อายุแค่สามสิบสี่ มาหาว่าแก่ซะงั้น นมเป่งนี่น้า” แดนไทพ้อ “เอาละ ตามนั้นนะ เดี๋ยวผมออกไปรับเจ้าเดี่ยวที่โรงเรียนก่อน”

ตัดบทแล้วแดนไทรีบเดินออกไปถึงรถโฟร์วีลสีดำคู่ใจ ขับออกตัวไปอย่างรวดเร็ว

----------

โต๊ะริมน้ำตรงหัวมุมนั้นเป็นทำเลที่ดีมาก นอกจากได้เห็นคุ้งน้ำท่าจีนงามๆ แล้วยังได้รับลมเย็นพัดเอื่อยตลอดเวลาอีกด้วย แดนไทเดินนำพนักงานไปถึงโต๊ะแล้วบอก

“ไปดูแลคนอื่นเถอะน้อง พี่ขอนั่งรอเพื่อนสักพัก พอดีมาก่อนเวลาน่ะ”

แดนไทบอกพนักงานอย่างคุ้นเคย ร้านอาหารริมน้ำแห่งนี้เขามาบ่อย ทุกครั้งที่มีแขกหรือลูกค้าคนสำคัญ ร้านริมท่าจีนถือว่าต้อนรับแขกได้ไม่อายใคร ด้วยบรรยากาศดีเลิศ อาหารอร่อยสดสะอาดและราคายุติธรรม ทำให้ร้านได้รับการบอกต่อ ยิ่งระยะหลังถูกโหมกระพือด้วยสื่อโซเชียลก็ยิ่งทำให้กิจการเจริญรุ่งเรืองขึ้นแบบก้าวกระโดด มีการขยายพื้นที่ ตกแต่งทั้งสวนและที่นั่งริมน้ำใหม่จนน่าประทับใจขึ้นไปอีก

นั่งเล่นชมลำน้ำท่าจีนไปพักหนึ่งจึงเห็นพงษ์โบกมือทักพร้อมเดินเข้ามาหา

“นั่งเลยมึง” หลังจากเห็นใบหน้าเพื่อนซึ่งเคยขาวออร่ากระจายกลับดูหม่นหมองจนน่าตกใจ แดนไทจึงทักถามต่อ “แล้วเป็นไง ทำไมหน้าตาอมทุกข์ขนาดนี้วะเนี่ย”

ปกติแล้วพงษ์เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มตลอดเวลา แต่วันนี้มีแววกังวลในดวงตาและหารอยยิ้มไม่เจอ

“เดี๋ยวกูเล่าหมดเปลือก สั่งอาหารกันก่อนดีกว่า กูหิว พอดีไม่ได้กินข้าวกลางวันน่ะ” พงษ์บอกพร้อมกวาดสายตาไปตามเมนูที่พนักงานยื่นให้

“งานยุ่งขนาดไม่มีเวลากินข้าวกลางวันเลยเหรอ”

“เปล่า กูกินไม่ลง ช่วงนี้ไม่รู้เป็นห่าอะไร กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ จนต้องมาขอคุยกับมึงเนี่ยแหละ”

เรื่องใหญ่แน่ๆ

แดนไทแค่คิดในใจ ปกติแล้วนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเขาที่รบกวนและขอคำปรึกษาจากพงษ์เสียมากกว่า เพราะเพื่อนคนนี้เก่งธุรกิจ ในขณะที่แดนไทเอาดีทางการทำไร่ แต่ในเมื่อธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวแดนไทคือการผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการเกษตรร่วมด้วย เขาจึงต้องพัฒนาต่อไป จนตอนนี้ถึงขั้นส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านได้ เป็นเพราะได้รับความช่วยเหลือและคำแนะนำจากพงษ์นี่เอง

หลังอิ่มจากอาหารไทยที่สั่งมาเต็มที่แล้วพงษ์จึงเริ่มเรื่องของเขาอย่างตรงไปตรงมา

“มึงคงรู้แล้วว่าปลายน้องกูเจออะไรในงานแต่ง”

แดนไทอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนเอ่ยเบาๆ

“รู้สิ วันนั้นกูอยู่ในงาน แต่กูขอโทษที่แอบกลับออกมาเงียบๆ ไม่ได้เข้าไปปลอบไปอะไร เพราะยังไงกูก็คนนอก ต้องให้ครอบครัวจัดการกันเอง กู...เสียใจด้วยว่ะพงษ์ ผู้ชายสมัยนี้แม่งโคตรเจ้าชู้ แล้วมันทำเนียนด้วยนะ ไม่งั้นปลายคงรู้แล้วละว่ามันมีเมีย ปลายไม่ใช่คนโง่”

“ใช่! น้องกูไม่ใช่คนโง่เลยนะเว้ยไอ้แดน มึงก็รู้ว่าปลายเรียนเก่งมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าอยากเรียนหมอยังอาจได้เลย แต่ปลายฝังใจ ชอบอาชีพพยาบาลเหมือนคุณย่า แล้วเป็นไง สถานะในฝันของญาติๆ ที่ว่าปลายเป็นพยาบาลผู้โชคดีได้แต่งกับหมอ กลับทำร้ายจนน้องกูแทบไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ผ่านมาเดือนเดียวปลายผอมจนเหลือแต่หัวแล้วเนี่ย เหมือนกระดูกเดินได้เลยว่ะ”

“จริงเหรอวะ”

แดนไทนึกภาพในอดีต น้องปลายที่แดนไทเคยรู้จักนั้นออกจะตัวกลมๆ ตาโตๆ รอยยิ้มกว้างแสนหวานจะอยู่บนใบหน้าเด็กหญิงอารมณ์ดีคนนั้นเสมอ ไม่เคยนึกเลยว่าชะตาชีวิตของปลายฝนจะเป็นเช่นนี้

“จะไม่ผอมยังไงไหว น้องกูไม่ได้ทุกข์ใจแค่เรื่องงานแต่งที่ล้มไป แต่มันเป็นเรื่องแผนการของชีวิตที่วางไว้ล่วงหน้าทั้งหมดด้วย คือไอ้หมอรุตนั่นน่ะมันทำเรื่องย้ายมาอยู่โรง’บาลในตัวเมืองสุพรรณนี่ไว้ตั้งแต่ก่อนงานแต่ง ตอนนี้ก็ทำงานอยู่ที่นั่นละ ส่วนปลายเคยทำเรื่องขอย้ายตามมา แถมอนุมัติแล้วด้วย ประมาณว่าย้ายตามสามีไรงี้ แต่แม่งดันเป็นสามีคนอื่นอะดิ พูดแล้วมันขึ้น!”

พงษ์ถอนใจ พยายามข่มอารมณ์แล้วบอกอย่างรวบรัด

“สรุปคือเดือนหน้าน้องสาวกูต้องย้ายมาสุพรรณ มาทำงานในโรง’บาลเดียวกับอดีตแฟนสารเลวที่เกือบหลวมตัวแต่งงานด้วย แต่ความแตกเสียก่อนนั่นแหละ มึงคิดดูว่าปลายจะทนไหวเหรอถ้าต้องพักในแฟลตพยาบาลใกล้บ้านพักแพทย์เข้าไปอีก แค่เจอกันตอนทำงานก็คงอึดอัดแทบตายแล้ว ตอนนี้ปลายเองยังหาทางออกไม่เจอ เพราะดั๊นไปชวนน้ำปิงให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่สุพรรณอีก น้ำปิงเป็นพยาบาลเพื่อนสนิทปลายน่ะ กำลังจะตามมาทีหลัง ซึ่งถึงตอนนั้นก็วางแผนไว้ว่าจะพักห้องเดียวกันที่แฟลต แต่คือมันมีช่วงแรกที่ปลายเพิ่งย้ายมาเดี่ยวๆ น่ะสิ กูไม่อยากให้น้องไปพักในโรง’บาล ไม่อยากให้ทรมานใจ” พงษ์สูดหายใจลึกๆ แล้วบอกต่อ สีหน้าลำบากใจ

“กูเลยคิดว่าเฉพาะช่วงแรกที่น้ำปิงยังไม่ย้ายมาจะขอให้ปลายพักที่บ้านมึงได้ไหมไอ้แดน นี่กูบอกตามตรงเลยว่าคิดอยู่นาน เพราะรู้ว่าไม่ควรรบกวนมึง แต่มันไม่มีทางอื่นแล้วไง ตอนแรกว่าจะให้ปลายพักแถวหอนอกโรง’บาล แต่กูไปดูสถานที่แล้วก็ยิ่งเป็นห่วง โคตรเปลี่ยวอะ ค่ำมืดกลับจากอยู่เวรเดินคนเดียวมันอันตราย มึงก็รู้ว่ากูดูแลน้องมาแบบไข่ในหิน ไม่อยากให้ต้องสมบุกสมบันมาก ถ้าปลายมาพักที่บ้านมึง กูยังพอจะเบาใจได้”

แม้แดนไทจะเข้าใจทุกคำพูดของเพื่อน แต่อาการเข็ดขยาดกับการมีสาวๆ เข้ามาร่วมชายคานั้น ทำให้เขาโพล่งออกไป

“กูไม่ไหวจริงๆ ว่ะพงษ์ มึงรู้ดีว่ากูเพิ่งโดนพี่เลี้ยงน้องเดี่ยวหักอกมาไม่นาน ตอนนั้นไม่ใช่เพราะกูยอมให้เขามาอยู่ในบ้านเหรอ มันถึงได้เกิดเรื่องน่ะ กูเข็ดจริงๆ ว่ะ”

“มึงพูดเหมือนมึงเป็นผู้ชายใจง่ายที่เข้าใกล้ผู้หญิงเป็นต้องรักเขางั้นแหละ ทั้งที่ภาพลักษณ์ภายนอกมึงโหดขนาดนี้ มึงคิดว่าจะหักห้ามใจตัวเองไม่เป็นเชียวเหรอวะ อีกอย่างปลายไม่ใช่คนอื่นคนไกล มันก็เหมือนน้องสาวมึงคนหนึ่ง คงลืมไปแล้วล่ะสิว่าตั้งแต่ปลายเกิดมาจนอายุสี่ขวบกว่าน่ะ ปลายติดใครมากกว่ากัน ระหว่างมึงกับกู ลืมไปแล้วใช่ไหมว่าปลายคือ ‘น้องปลาย’ ของมึง กูเชื่อว่าน้องสาวกูไม่เคยลืมมึงหรอก ต่อให้เรื่องมันผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ปลายต้องจำมึงได้ว่าเคยเป็นพี่ชายที่ปลายรักแค่ไหน”

ภาพความทรงจำในอดีตพรั่งพรูเข้ามาในสมองแดนไท ต้องยอมรับว่าความผูกพันของเขากับปลายฝนนั้นลึกซึ้งกว่าที่เขาคิดไว้มาก กระนั้นแดนไทยังตกใจตัวเองที่ตอบเพื่อนออกไปว่า

“กูช่วยมึงไม่ได้จริงๆ ว่ะพงษ์ มึงให้กูช่วยอย่างอื่นดีกว่านะ ขอร้องล่ะ”

 

 

** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

 

 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com