
ยี่สิบปีก่อน
ในค่ำคืนเดือนมืดกลางฤดูฝนบนเทือกเขาผาพยับเมฆป่าดิบชื้นอันสลับซับซ้อน สายฝนโหมซัดกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรงราวเข็มนับพันนับหมื่นเล่มบนแผ่นหลังล่ำสันเปลือยเปล่าของชายวัยกลางคนที่กำลังปีนป่ายลงมาตามหนทางแคบๆ ที่เกิดจากช่องแตกของแผ่นหินผาสูงชัน สองตีนเปลือยเปล่าของชายผู้นั้นจิกจมกับดินโคลนลื่นและก้อนหินคม มือหนึ่งยึดเกาะก้อนหินอีกมือดึงลากข้อแขนเล็กเรียวของเด็กหญิงในชุดขาวหม่นที่กำลังเปียกปอนจนหนาวสั่น วัยของหนูน้อยไม่น่าจะเกินห้าหกขวบ ปากเล็กๆ เปล่งเสียงร่ำร้องหาพ่อแม่ ทั้งร้องขอให้คนที่ฉุดกระชากตนปล่อยไปเสีย แต่เสียงสะอื้นก็ถูกกลบด้วยเสียงฝนกระหน่ำและฟ้าคำราม หนูน้อยเอี้ยวมองกลับไปที่หนทางที่ผ่าน บ้านอยู่ไกลออกไปทุกทีแล้ว
“รีบเดินมาไวๆ เข้า อย่าดื้อด้าน เดี๋ยวพวกมันก็ตามมาทันหรอก”
“ปล่อยฉัน ฉันไม่ไป ฉันจะไปหาพ่อแม่”
“บอกแล้วยังไงล่ะว่าข้าจะพาไปหาพ่อแม่”
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ ฮือๆๆ”
“บอกว่าอย่าร้อง แม่เอ็งออกไปตามหาพ่อไม่ใช่รึ ไปสิ ข้าจะพาไปหาพวกเขา ข้าไม่โกหกหรอกน่า”
“ไม่เชื่อ” เสียงเล็กกราดเกรี้ยว ถึงตัวจะยังน้อยแต่แม่หนูก็มีสง่าบารมีใช่ย่อย “เจ้าทำผิดมาใช่ไหม ไอ้หัวขโมย” ดวงตาของเด็กหญิงวาวใสรู้เท่าทันกว่าวัย
“อีเด็กสาระแน รู้ดีนักนะมึง เออ กูไม่อยากอยู่แล้วเมืองบ้าๆ ของผีป่าผีเขาอย่างพวกมึง กูจะกลับบ้านกูแล้วเรื่องอะไรกูจะไปมือเปล่า ทองแง่งขมิ้นของพวกมึงมีตั้งมาก กูขอแบ่งมาบ้างจะเป็นไร”
“ไอ้คนโลภจะไม่ตายดี”
“อีเด็กผี มึงอย่าพูดมาก รีบเดินเร็วๆ”
“บอกว่าไม่ไป!” ร่างเล็กสะบัดสุดแรงจนหลุดพ้น มันคว้าได้เพียงสร้อยสายป่านพันแง่งรูปร่างประหลาดสีทองอร่าม
“อา! ทองของกู ได้มาอีกก้อนแล้ว มึงมานี่ อย่าให้กูโมโหนะ” ร่างสูงยัดแง่งทองใส่ย่ามแล้วปรี่เข้ามาหา มือใหญ่เงื้อง่า นัยน์ตาแดงก่ำด้วยโทสะ
เปรี้ยง!
อ๊าก!
สายฟ้าฟาดลงมาใส่ร่างสูงอย่างรุนแรงจนผงะหงาย แสงสว่างจ้าทำให้ร่างเล็กตาพร่ามัว เสียหลักล้มลงและกลิ้งลงตามทางลาดชันพร้อมกับน้ำป่าที่กรูลงไปหาแอ่งน้ำมหึมาด้านล่าง เด็กหญิงหล่นลงมานอนแน่นิ่งอยู่บนหาดทรายเล็กๆ เบื้องล่างก่อนสติจะดับลง
“ลูก! ลูกแม่” กังวานเสียงหวีดหวั่นตื่นตระหนกดังมาจากทางเดินเล็กๆ ที่ทอดไปยังหาดนั้น สายฝนสาดลงมาปะปนกับสายน้ำที่โตนตาดผาสู่เบื้องล่างไม่ขาดสาย ที่ซอกหินหนึ่งร่างดำเป็นตอตะโกนอนแน่นิ่งผิดรูปผิดร่างกำลังถูกไฟเผาลามเลีย กลิ่นเนื้อไหม้ชวนสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ห่างออกไปเกือบถึงผืนน้ำ บนพื้นทรายละเอียดร่างเล็กสมบูรณ์น่าเอ็นดูนอนหมดสติแน่นิ่ง หญิงสาวผู้กรีดร้องปานจะขาดใจถลันเข้าไปช้อนร่างเด็กน้อยขึ้นอุ้ม ปากพร่ำเรียกลูกน้อยให้ตื่นฟื้น น้ำตาหล่อนไหลพราก
หล่อนแหงนหน้ามองไปยังผากว้าง แม้ว่าสายฝนจะยังซัดสาดลงมาหนาแน่นสองตาของหล่อนยังเห็นร่างสูงโปร่งเรืองรองของพวกเขา เห็นแม้ กระทั่งความเย็นชาที่ถ่ายทอดลงมาหาหล่อนและลูกน้อย หญิงสาวทรุดนั่งลงร่ำไห้กอดลูกอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก็เหมือนจะคิดได้ หล่อนรวบร่างอ่อนปวกเปียกของลูกสาวขึ้นอุ้มแนบอก หันหลังเดินออกไปจากป่าโดยไม่เหลียวหลังไปมองพวกเขาอีกแม้แต่ครั้งเดียว
** หมายเหตุ: นิยายที่ลงในเว็บยังไม่ใช่ฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **