ทดลองอ่าน ฝากรักไว้ที่ปลายฝน : ตอนที่ 20

 

 

ตอนที่ 20

 

 

“น้ำปิง! ทางนี้ๆ”

ปลายฝนโบกมือพร้อมตะโกนเรียกเพื่อนด้วยความตื่นเต้น ทำเอาผู้คนในสถานีขนส่งถึงกับเหลียวมองเป็นตาเดียว

หญิงสาวร่างสูงโปร่งผมบ็อบประบ่าสะพายเป้ลงจากรถบัสแล้วเดินตรงมาหาปลายฝน พอถึงตัวต่างก็โผเข้ากอดกันกลม

“คิดถึงงงง” คนมารับบอกพร้อมจูงมือน้ำปิงเดินไปยังรถเก๋งคันเล็กสีขาวของตน

“แกขับมารับฉันเองเลยเหรอเนี่ย เก่งอะ” น้ำปิงทำสีหน้าชื่นชมแล้วปิดท้ายแบบหักมุม “ว่าแต่แกขับเป็นแน่นะ”

“นังปิง! มาถึงก็กวนเชียวนะ ฉันขับเก่งแล้วเหอะ” ปลายฝนนั่งหลังพวงมาลัยด้วยท่าทางทะมัดทะแมงพร้อมชูคออวดเพื่อน

“ไหนแกบอกว่าชาตินี้จะไม่ฝึกขับรถอีกแล้ว หลังอุบัติเหตุคราวนั้น”

“มันจำเป็นไง ฉันอยู่ที่นี่ถ้าขับรถเองไม่ได้ ไปไหนก็ลำบาก”

“ความจริงไม่ใช่เฉพาะที่นี่หรอก ไม่ว่าอยู่ไหน ผู้หญิงอย่างเราต้องขับรถให้เป็นไว้ก่อน ฉันดีใจนะปลาย ที่แกปรับตัวเก่งขึ้นมาก ว่าแต่นี่เราจะตรงไปโรง’บาลเลยใช่ไหม ไกลหรือเปล่า” น้ำปิงถาม สายตาไม่ละไปจากทิวทัศน์ข้างทางซึ่งสำหรับสาวเหนืออย่างเธอ การเห็นภาพทุ่งนาบนพื้นราบไกลสุดลูกหูลูกตานั้นน่าประทับใจมาก

“ไม่ไกลหรอกแก อยู่ในตัวจังหวัดเนี่ยแหละ แต่ว่าฉันต้องพาแกไปบ้านไร่ของพี่แดนก่อนนะ อยู่ห่างจากนี่สักยี่สิบโลได้ พอดีแม่นมของพี่แดนอยากทำกับข้าวเลี้ยงแกสักมื้อน่ะ”

แทนที่คนเพิ่งมาถึงจะสนใจเรื่องการกินข้าวที่บ้านแดนไท แต่น้ำปิงกลับตะโกนลั่นรถ

“แม่นม!? นี่คำว่าแม่นมมีอยู่จริงเหรอวะเนี่ย” คนพูดระเบิดเสียงหัวเราะตามมา แม้จะพอรู้มาบ้างว่าปลายฝนไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนพี่ชายซึ่งออกแนวหนุ่มชาวไร่ผู้ใช้ชีวิตเกาะติดธรรมชาติราวกับย้อนยุคนิดๆ แต่ไม่นึกว่าจะถึงขั้นมีแม่นมกันเลยทีเดียว

“มีจริงดิ ชื่อนมเป่งแก”

คราวนี้เสียงหัวเราะดังลั่นรถกว่าเดิม ปกติน้ำปิงเป็นคนร่าเริง ยิ้มง่าย มองโลกในแง่บวกอยู่แล้ว พอมาเจอเรื่องอย่างนี้ดูจะอารมณ์ดีสุดๆ ผิดภาพที่ปลายฝนคิดไว้ว่าหลังจากเพื่อนโดน ‘หักอก’ มา คงสลดไปมากและกินเวลาเนิ่นนาน แต่นี่ดูเหมือนน้ำปิงจะกลับมาปกติดีแล้วด้วยซ้ำ

“เอาจริงชื่อก็ไม่แปลกมาก แต่พอผสมกับคำว่า ‘นม’ แล้วฮาไปใหญ่ ชักสนุกแล้วสิ ฉันดีใจนะที่ตัดสินใจย้ายตามแกมาสุพรรณ นอกจากได้หนีจากคนเฮงซวยแล้ว ยังได้เจออะไรที่ต่างไปจากชีวิตเดิมๆ บ้าง”

“แก...ทำใจได้แล้วเหรอปิง”

ความจริงปลายฝนตั้งใจจะไม่เอ่ยถึง แต่พอน้ำปิงพูดถึง ‘คนเฮงซวย’ นั่นขึ้นมา เธอจึงอดถามไม่ได้

“ถ้าให้พูดตรงๆ ก็ยังไม่ถึงกับทำใจได้อะ อย่างที่แกรู้ว่านภยังทำงานอยู่ห้องยาเหมือนเดิม แถมมันยังขยันควงแฟนไปกินข้าวที่โรงอาหารทุกวัน ต่อให้เก่งแค่ไหน พอเห็นเข้ามันก็อดเสียใจไม่ได้”

นภแฟนเก่าของน้ำปิงเป็นเภสัชกรในโรงพยาบาลเดียวกัน ทั้งสองรักกันมาเกือบสองปีแล้ว แต่ฝ่ายชายกลับแอบคบซ้อนกับสาวคนใหม่ซึ่งทำงานอยู่ห้องธุรการ รายนั้นสดใสและเด็กกว่าน้ำปิงมาก นภหลงเสน่ห์จนในที่สุดก็มาบอกเลิกกับน้ำปิงดื้อๆ ปลายฝนมาคิดดูแล้วอดสมเพชทั้งเพื่อนและตัวเองไม่ได้ ที่ชะตาชีวิตเรื่องความรักช่างพลิกผันไม่แพ้กันเลย

น้ำปิงยังชวนคุยต่อ

“แต่ถึงนภมันจะโหดแค่ไหน ก็ยังน้อยกว่าหมอรุตอะนะ หน็อย ทำกับแกได้ลงคอ ฉันยังโมโหไม่หายเลย อุตส่าห์ช่วยเชียร์เกือบตาย ช่วยกระทั่งทำเซอร์ไพรส์ขอแกแต่งงาน แล้วเป็นไง คุณหมอดันไปทำสาวอื่นท้องซะงั้น โคตรใจร้ายเลย!”

ทำไมปลายฝนจะจำไม่ได้ว่าวันนั้นน้ำปิงช่วยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่จัดการเรื่องสถานที่ให้ จนทำให้ศรุตขอเธอแต่งงานได้สำเร็จงดงาม แม้จะเป็นฉากจอมปลอม แต่เธอไม่มีวันลืม

ว่าแต่จะจำเรื่องเจ็บปวดใจไปทำไม ปลายฝนจึงรีบบอกเพื่อน

“เอาละๆ เรามาทำสัญญากันดีกว่า ว่าต่อไปนี้จะเลิกพูดเรื่องรักเฮงซวยเก่าๆ นั่น พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เรามาเริ่มชีวิตใหม่ที่สุพรรณกันเนอะปิง ฉันเชื่อว่าเราต้องมีความสุขกับงานและการใช้ชีวิตที่นี่”

ปลายฝนบอกอย่างมั่นใจ หลังจากมาอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งแล้วพบว่าสังคมบ้านๆ ของเมืองสุพรรณให้ความสุขความสบายใจได้ไม่น้อย

“ฉันภาวนาอยู่ ว่าขอให้ทุกอย่างราบรื่น”

พูดยังไม่ทันขาดคำ ความไม่ราบรื่นก็บังเกิด เมื่อจู่ๆ มีรถมอเตอร์ไซค์ขับตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดจนปลายฝนต้องเหยียบเบรกอย่างแรงพร้อมหักหลบ กระนั้นก็ยังไม่พ้นเฉี่ยวชน มอเตอร์ไซค์ของหนุ่มวัยรุ่นเสียหลักล้มลง ส่วนรถของปลายฝนไถลออกจากถนน เกือบตกไหล่ทาง

เสียงกรีดร้องของสองสาวดังลั่นรถ ปลายฝนตั้งสติได้ก่อน รีบถาม

“แกเป็นไรไหมปิง”

“ไม่ๆ แล้วแกล่ะ”

“ฉันโอเค เดี๋ยวเรารีบลงไปดูน้องกันดีกว่า เท่าที่เห็นหัวไม่กระแทกนะ ไปดูกัน”

สองพยาบาลสาววิ่งไปจนถึงร่างผอมสูงของหนุ่มวัยรุ่นที่นั่งอยู่บนพื้นถนนก้มมองแขนขาที่ถลอกของตน

เมื่อเด็กหนุ่มดูคร่าวๆ แล้วพบว่าตนไม่เป็นอะไรมาก แถมตัวเองยังเป็นฝ่ายขับตัดหน้า เขาจึงอาศัยช่วงชุลมุน ลุกขึ้นสตาร์ตมอเตอร์ไซค์แล้วขับหนีไปอย่างรวดเร็วจนสองสาวถึงกับอ้าปากค้าง

“เฮ้ย! ไหงทำงี้วะ อุตส่าห์จะช่วยดูอาการให้” น้ำปิงโวยลั่น

“สงสัยไม่มีตังค์ กลัวโดนให้ซ่อมรถฉันน่ะสิ กันชนเสียหายไม่น้อยเลยด้วย”

“เด็กเปรตนี่ อยู่ๆ ก็มาทำเรื่อง โอ๊ย ฤกษ์ไม่ดีอีกแล้ว ฉันจะรอดไหม ที่ย้ายมาอยู่นี่น่ะ” น้ำปิงบ่นยังไม่ทันขาดคำ รถมอเตอร์ไซค์อีกคันก็ขับมาจอดตรงหน้า ชายหนุ่มที่ขับมานั้นอยู่ในชุดตำรวจเต็มยศ เขาลงจากรถ ตรงมาหาสองสาวพร้อมถามไถ่

“อุบัติเหตุเหรอครับ เป็นอะไรมากไหม”

“ถามได้ว่าอุบัติเหตุหรือเปล่า เห็นกันชนก็น่าจะรู้แล้วไหม” น้ำปิงเปรยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ยังโมโหไม่หายกับวัยรุ่นตัวแสบที่ชิ่งหนี แถมดูแล้วมอเตอร์ไซค์ไม่มีทะเบียนอีกต่างหาก

“คู่กรณีหนีไปแล้วเหรอครับ” นายตำรวจหนุ่มยังซักไซ้ต่อ

“ถ้าไม่หนีก็คงเห็นอยู่แถวนี้แล้วแหละ เซ็งมาก ไอ้เด็กเวรนี่ อยู่ดีๆ มาขับตัดหน้าเฉย เพื่อนฉันยิ่งยังขับไม่แข็งอยู่ รถไม่ตกลงไปในคลองข้างถนนก็บุญเท่าไรแล้ว” น้ำปิงยังบ่นต่อ ส่วนปลายฝนนั้นส่งสายตาปรามเพื่อน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหงุดหงิดใส่ตำรวจที่อุตส่าห์จอดรถลงมาช่วยเหลือ

“น้องหนีไปแล้วค่ะ แต่ไม่เป็นไร รถฉันมีประกันชั้นหนึ่ง น่าจะไม่ยากหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณตำรวจ” ปลายฝนบอกเขาพร้อมค้อมศีรษะน้อยๆ

“ยินดีครับ ถ้าไม่มีอะไรงั้นผมไปก่อน” นายตำรวจหนุ่มรอจนปลายฝนกับน้ำปิงขึ้นรถ เขาจึงสตาร์ตมอเตอร์ไซค์ กำลังจะออกตัวก็ได้ยินเสียงร้องเรียก

“เดี๋ยวค่ะคุณตำรวจ คือว่า...รถฉันสตาร์ตไม่ติดค่ะ ตะกี้ยังดีๆ อยู่เลย รบกวนดูให้หน่อยได้ไหมคะ” ปลายฝนลงจากรถหลังจากดึงตัวเปิดกระโปรงหน้ารถเรียบร้อยแล้ว

ผู้กองยุทธ์จัดการสำรวจเครื่องยนต์คร่าวๆ แล้วไม่เห็นความผิดปกติ จึงขอลองสตาร์ตด้วยตัวเองอีกครั้ง ปรากฏว่ายังไม่ติดเช่นเคย

“เปลี่ยนแบตฯ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ”

ปลายฝนคิดอยู่พักหนึ่งจึงบอก

“สองปีกว่าแล้วค่ะ”

“สงสัยแบตฯ เสื่อม เอางี้ เดี๋ยวผมไปเอารถที่ สน. มาเชื่อมแบตฯ ให้ อยู่ไม่ไกลเท่าไร คุณสองคนรออยู่นี่นะ”

“ได้ค่ะคุณ...”

“เรียกผมว่ายุทธ์ก็ได้”

“ฉันปลาย ส่วนนั่น ปิงค่ะ รบกวนคุณยุทธ์ด้วยนะคะ ฉันไม่มีความรู้ทางเครื่องยนต์เลย”

“ได้ครับ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการเอง”

เมื่อผู้กองยุทธ์ลับตาไป น้ำปิงเริ่มบ่น

“ถ้าอีตานั่นไม่ใส่ชุดตำรวจนะ ฉันว่าทรงโจรชัดๆ”

“อะไรของแกเนี่ยปิง อย่าบอกนะว่าวันแดงเดือดอะ ทำไมแกขวางหูขวางตาคุณตำรวจจังเลย”

“ไม่รู้อะ ไม่ถูกชะตาอย่างแรง ฉันไม่ชอบคนตัวดำๆ หน้าเข้มๆ ด้วยมั้ง ดูไม่น่าไว้ใจ”

“แกนี่น้า... ยังไม่เข็ดกับคนขาวๆ หรือไง ที่เจ็บปางตายนี่ไม่ใช่เพราะโอป้านภเหรอ อุ๊ย! ว่าจะเลิกพูดถึงนี่นา” ปลายฝนยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ความจริงเธอออกจะสงสารน้ำปิงมาก แถมยังเสียดายที่ห้ามเพื่อนไม่สำเร็จ เพราะเคยเตือนน้ำปิงก่อนที่จะตกลงเป็นแฟนกับนภแล้วว่าให้ระวัง ดูท่าทางเจ้าชู้เอาเรื่อง แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

คิดถึงตรงนี้แล้วปลายฝนก็อดขำไม่ได้ ทีแฟนคนอื่นเจ้าชู้ ดูออกแต่ต้น แต่พอแฟนตัวเอง เธอกลับไม่รู้อะไรเลยกระทั่งหมอศรุตไปทำสาวอื่นท้องก็ยังไม่ระแคะระคาย แบบนี้ละมั้ง ที่เขาว่าความรักทำให้คนตาบอด

รออีกไม่ถึงสิบนาที ผู้กองยุทธ์ขับรถกระบะสีเทาของตนมาจอดเทียบรถของปลายฝน จัดการเชื่อมแบตเตอรีอย่างคล่องแคล่ว เพียงครู่เครื่องยนต์รถของปลายฝนก็ทำงาน

“ผมว่าขับไปอู่เลยน่าจะดี อย่างน้อยควรเช็กให้แน่ใจว่าเพราะอะไรถึงสตาร์ตไม่ติด”

“มีอู่ที่ไว้ใจได้แนะนำไหมคะ พอดีฉันเพิ่งย้ายมาอยู่นี่ไม่นาน เราสองคนเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาล...” ปลายฝนบอกชื่อโรงพยาบาลไป น่าแปลกว่าในขณะที่น้ำปิงไม่ถูกชะตากับนายตำรวจหนุ่มผู้นี้ แต่เธอเองกลับรู้สึกได้ถึงความจริงใจพร้อมช่วยเหลือของเขา

“นี่อย่าบอกนะว่าคุณคือพยาบาลที่ไปขอพักบ้านไอ้แดนชั่วคราวน่ะ”

“ใช่ค่ะใช่ คุณยุทธ์รู้จักพี่แดนเหรอคะ เขาเป็นเพื่อนพี่ชายปลายค่ะ”

“อย่าเรียกว่ารู้จักเลยครับ เรียกว่ารู้ไส้รู้พุงกันหมดจะดีกว่า ถ้าแบบนี้อยากให้ผมโทร.เรียกไอ้แดนมาช่วยดูเรื่องรถไหม”

“อย่าดีกว่าค่ะ ปลายเองก็มีเบอร์พี่แดน แต่ไม่อยากรบกวนเขา ช่วงนี้เขาอยู่แต่ในไร่ กำลังยุ่งๆ ค่ะ แต่กับคุณยุทธ์...ถือซะว่าตำรวจต้องช่วยเหลือประชาชนนะคะ”

“งั้นเอางี้ คุณปลายขับตามผมมา ผมจะพาไปอู่คนรู้จักอยู่ไม่ไกลนี่เอง แก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน เอาไว้วันหลังจะไปเข้าศูนย์ค่อยว่ากัน ช่างคนนี้เก่ง ไม่มีมั่ว ผมใช้บริการประจำ” ผู้กองหนุ่มการันตี น้ำเสียงหนักแน่น

“งั้นดีเลยค่ะพี่ยุทธ์ รบกวนด้วยนะคะ” ปลายฝนถือโอกาสเรียกเขาว่าพี่เสียเลย ฝ่ายน้ำปิงถึงกับสะกิดเตือน ทำตาขวางใส่เธออีกต่างหาก น้ำปิงไม่รู้อะไร หลังจากโดนศรุตหักหลัง ปลายฝนฉลาดขึ้นมาก เชื่อว่าเก่งในเรื่องการดูคนขึ้นเยอะเลยละ

ผู้กองยุทธ์ขับนำไปจนถึงอู่ อีกครู่ใหญ่เขาจึงขอตัวกลับไปทำงานต่อ ส่วนรถของปลายฝนนั้นหลังจากที่ช่างเช็กแล้วยืนยันว่าเป็นเพราะแบตเตอรีหมดอายุ เธอจึงให้ช่างจัดการเปลี่ยนให้ใหม่

เสร็จแล้วปลายฝนจึงขับพาน้ำปิงไปยังบ้านปีกไม้กลางไร่เผือกอันเป็นจุดหมาย

 

ฝากรักไว้ที่ปลายฝน มีวางงานหนังสือ บูธร้านนายอินทร์ (B46) และบูธสำนักพิมพ์ภัสรสา (M23) นะจ๊ะ

หรือโหลดอ่านแบบ อีบุ๊ก ได้ที่ App Meb

 
 

กลับหน้าหลัก        

Powered by MakeWebEasy.com